เครื่องรางโอะมะโมะริ”Omamori”
โอมาโมริ หรือ เครื่องรางของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่กลายเป็นรู้จักและเป็นทีนิยมอย่างแพร่หลายของนักท่องเที่ยวที่ไปประเทศญี่ปุ่นต่างที่เข้ามาไหว้พระและไปวัดที่ญี่ปุ่น และต้องซื้อพกติดตัวไว้หรือนำเป็นของฝาก เหมือนเป็นเครื่องป้องกันตัว
ลักษณะของเครื่องราง มักทำจากผ้าทอสวยงาม ข้างในจะใส่ กระดาษ แผ่นไม้ ผ้า หรือ โลหะที่มีรูปของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละวัดพิมพ์อยู่ ลงไปในห่อผ้า แล้วก็เอาเชือกผูกปิดปากถุง ส่วนรูปทรงสมัยก่อนจะไม่หลากหลายเท่าสมัยนี้ จะเป็นสี่เหลี่ยม ขอบมุมบนสองข้างจะพับลงมา ส่วนความหมายของการทำแบบนั้นไม่ได้มีที่มาชัดเจน ส่วนปัจจุบัน รูปร่างของเครื่องรางมีหลากหลายมากขึ้น ทั้งแบบกลมมัดปากถุง หรือจะเป็นแบบที่มีพลาสติกไวนิลมาห่อข้างนอกเพื่อความสวยงามทนทานมากขึ้นก็มีขอให้สุขภาพแข็งแรงสามารถขอได้ในหลายๆเรื่อง แต่ละแบบจะมีอักษรเขียนไว้ตรงตัวเลยว่าช่วยเรื่องอะไรบ้าง ป้องกันเจ็บไข้ได้ป่วย ขอให้มีโชคทางการเงิน เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ขอให้ลูกค้าเข้าร้าน ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้น ใครอยากได้แบบใดก็สามารถเลือกพกได้เลย
เครื่องราง มาในรูปแบบ พกติดตัวไปไหนมาไหนได้ ใช้ถุงที่ทำด้วยไหมทอง ด้านในจะมีเครื่องรางที่ทำด้วย กระดาษ ไม้ ผ้า หรือ เหล็ก และผูกปากถุงด้วยเชือกเป็นการปิดผนึกไว้ ปกติจะใช้ห้อยจากด้านบนมุมทั้งสองข้าง แต่ในช่วงหลังๆมามีรูปทรงอื่นเพิ่มขึ้นมากมาย อีกทั้งยังมีประเภทของเครื่องรางที่ใช้ขอพรเพิ่มขึ้น แตกต่างกันไปตามเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในแต่ละวัดและศาลเจ้าต่างๆ เช่น เทพเจ้าแห่งการศึกษา หรือ เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ คนญี่ปุ่นจึงนิยมเดินทางไปวัดและศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อตามหาเครื่องรางที่ตนปรารถนา และนี่คือประเภทของเครื่องรางชนิดต่าง ๆ
วิธีพกพาเครื่องราง
เพื่อให้ได้พรที่ศักดิ์สิทธิ์และเห็นผลมากที่สุดจากเครื่องราง ควรที่จะพกเครื่องรางใส่ไว้ในกระเป๋าหรือกระเป๋าสตางค์หรือของที่เราพกใส่ไว้ในของที่เราติดตัวตลอด เพื่อจะได้พกติดตัวสะดวกทุกวัน ในกรณีที่อยากตั้งไว้ในบ้านหรือบนชั้นวางของ แนะนำว่าควรวางไว้ให้เห็นเด่นชัด ในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับวันหมดอายุของเครื่องราง แต่ถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนใหม่ทุกวันปีใหม่ สำหรับเครื่องรางที่ใช้แล้วในปีที่ผ่านมา ควรนำกลับไปคืนให้กับศาลเจ้าหรือวัดเดิม หรือถ้าไม่ได้กลับไปอีก ก็นำไปคืนที่ศาลเจ้าหรือวัดอื่นก็ได้เช่นกัน
อายุการใช้งาน
ก็ไม่ใช่ว่าซื้ออันนึงแล้วจะขอได้ตลอดไป พอใช้ครบ 1 ปี ก็จะให้เอาไปคืนให้กับวัดหรือศาลเจ้าที่เราซื้อเครื่องรางมา เค้าจะเอาไปเผาทำลายตามพิธีทางศาสนาต่อไปอีกที ถ้าไปวัดเดิมไม่ได้ เอาวัดใกล้ๆบ้านก็ได้ แต่ขอว่าถ้าซื้อมาจากศาลเจ้า ให้คืนศาลเจ้า ถ้าซื้อจากวัดให้คืนวัด แค่นั้นเลย
ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : รีวิวเรื่องตำนานสิ่งลี้ลับเรื่องผี
สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : Storyreview