STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

ตำนานม้าเมืองทรอย

ตำนานม้าเมืองทรอย

ตำนานม้าเมืองทรอย เวลาเราไปเที่ยวประเทศไหน เราก็ต้องศึกษาวัฒนธรรมหรือที่มาของประเทศนั้นๆไว้ด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้เข้าใจและเรียนรู้ประเทศของเขาขอพาทุกท่านย้อนรอยตามหาตำนานม้าไม้แห่งกรุงทรอย ที่ประเทศตุรกีนั่นเองค่ะ ก็เพราะเห็นว่าตุรกีเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้เลย เพราะมีวัฒนธรรมและอารยธรรมที่เก่าแก่ ที่น่าศึกษาเยอะเลย ตามตำนานในสมัยกรีกโบราณย้อนกลับไปอีกเมื่อปี ค.ศ. 1868 ‘ไฮน์ริช ชลีมันน์’  นักธุรกิจและนักโบราณคดีชาวเยอรมัน ที่ยอมลงทุนและลงแรงออกเดินทางตามหากรุงทรอยในตำนาน ด้วยความเชื่อที่ว่าเมืองแห่งนี้มีอยู่จริงและเขาได้พบกับซากเมืองโบราณในเขตของเมือง Canakkale เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี บริเวณช่องแคบดาร์ดะเนลส์  ซึ่งเป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างคาบสมุทร Gallipoli ที่แยกทวีปยุโรปกับทวีปเอเชียออกจากกัน และเชื่อกันว่านี่คือซากของกรุงทรอย หากแต่กรุงทรอยที่ชลีมันน์ค้นพบนั้นหามีความแตกต่างจากบันทึกของมหากาพย์อิเลียตโดยสิ้นเชิง เรื่องราวของ สงครามกรุงทรอย ที่รู้จักกันในชื่อ ‘สงครามม้าไม้’ นั้น เป็นการสู้รบกันระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกองทัพของชาวทรอยหรือชาวโทรจัน ชนวนเหต

ประวัติผาหน้าคนและห้องลับ

ประวัติผาหน้าคนและห้องลับ

ประวัติผาหน้าคนและห้องลับ อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ เป็นประติมากรรมแกะสลักใบหน้าของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จำนวน 4 ท่าน ที่ภูเขารัชมอร์รัฐเซาธ์ดาโกตา สหรัฐอเมริกา โดยตัวอุทยานทั้งหมดมีเนื้อที่ 1278.45 เอเคอร์  สูงจากระดับน้ำทะเล 5,725 ฟุต แนวคิดในการสร้างอนุสรณ์สถานดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1923 โดยนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกาชื่อ ดูอาน โรบินสันซึ่งเป็นชาวรัฐเซาธ์ดาโกตา และเห็นว่ารัฐของตนไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากนัก จึงเสนอแนวคิดที่จะสร้างอนุสรณ์สถานถึงบุคคลสำคัญของประเทศขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่รัฐแห่งนี้มากขึ้น ในตอนแรกนั้น โรบินสันคิดจะสร้างรูปสลักที่บริเวณภูเขาที่เรียกวว่า “เสาเข็ม”  ซึ่งเป็นหินรูปแหลมสูงคล้ายเข็ม แต่กุตซอน บอร์กลัม  ประติมากรผู้รับผิดชอบงานนี้ไม่เห็นด้วย เนื่องจากคุณภาพของหินไม่เหมาะกับการแกะสลัก รวมถึงได้รับการคัดค้านจากชาวพื้นเมืองอินเดียนแดงในบริเวณดังกล่าว จึงได้เปลี่ยนมาเป็นที่เขารัชมอร์แห่งนี้แทน ในตอนแรกนั้นโรบินสันคิดว่าอยากจะให้เป็นใบหน้าของเหล่าวีรบุรุษผู้บุกเบิกดินแดนตะวันตก แต่บอร์กลัมไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่างานใหญ่ระดับนี้คว

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก ปัจจุบันดาวเทียมประดิษฐ์มากกว่า 15.5 พันดวงโคจรรอบโลก นี่คือยานพาหนะทางทหาร สถานีตรวจอากาศ และดาวเทียมสื่อสารและโทรคมนาคม เศษโลหะทั้งหมดนี้ไม่ช้าก็เร็วตกลงสู่พื้นโลก แต่ไม่ใช่แค่นั้น แต่ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งบนโลกของเรา เรียกว่าพอยท์นีโม่ นี่คือสุสานที่แท้จริงของยานอวกาศ วิธีกำจัดยานอวกาศ เริ่มต้นด้วยการชี้แจงเล็กน้อยว่า “การรื้อถอน” และการกำจัดยานอวกาศเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อดาวเทียมหรือสถานีอวกาศที่โคจรหมดแรง มีเพียงสองวิธีที่จะนำออกจากวงโคจรและส่งไปยังส่วนที่เหลือ หากดาวเทียมมีวงโคจรที่สูงมากดังนั้นความน่าจะเป็นของการชนกันของอุปกรณ์ที่จำเป็นกับอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นจึงลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ สำหรับดาวเทียมที่โคจรอยู่ต่ำกว่าพื้นผิวโลก เป็นการดีกว่าและประหยัดกว่าที่จะชะลอความเร็วและปล่อยให้พวกมันตกลงสู่พื้นโลก ถ้าดาวเทียมมีขนาดเล็ก มันจะเผาไหม้และสลายไปในชั้นบรรยากาศอย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอุกกาบาตหลายร้อยดวงที่ตกลงมาบนโลกทุกวัน แต่ถ้าดาวเทียมมีขนาดใหญ่ และมีโอกาสที่จะเผาไหม้ไม่หมดในอากาศ กระบวนการกำจัดจะต้องให้ความสนใจและวางแผนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แนว

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ หลายๆคนก็คนเคยได้ยินตำนานของยูนิคอร์น  ม้าที่มีเขาเป็นเกลียว  ตัวสีขาวบริสุทธิ์  วิ่งได้เร็ว  หาตัวจับยาก  และที่สำคัญ คือ จะยอมเข้าใกล้เฉพาะหญิงสาวพรหมจรรย์   ซึ่งยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล หรือ นาร์วาฬ  ก็มีเขาเป็นเกลียวจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าจะยอมเข้าใกล้แต่สาวพรหมจรรย์ด้วยหรือเปล่านะ ชื่อของนาร์วาฬ มาจาก ภาษา Old Norse มีความหมายว่า วาฬที่มีลักษณะคล้ายซากศพ เพราะมันชอบว่ายน้ำโดยหันทางด้านท้องมันขึ้นด้านบน และการที่มันมีสีผิวที่ซีด งา (ที่เหมือนจะเป็นเขาของยูนิคอร์น) แต่ยื่นออกจากปากของนาร์วาฬนี้ ยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า งาอันยาวยืดนี้เป็นความภาคภูมิใจของนาร์วาฬเพศผู้ที่ใช้ดึงดูดความสนใจ ระหว่างการจับคู่ เขา หรือ งา ที่เอาไว้อวดสาวๆ นาร์วาฬพบมากบริเวณขั้วโลกเหนือ มักจะอพยพผ่านทางรอยนํ้าแข็งแยกดังภาพข้างบน  ถึงมันยังไม่เป็นสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์แต่ก็ถูกล่าเป็นจำนวนมาก เพราะเขาของมันนั่นเอง เห็นอย่างนี้แล้วก็แอบเชียร์ในใจว่ายูนิคอร์นจริงๆอาจจะมีก็ได้  ขนาดปลาวาฬยังมีเขาเลย ม้าก็อาจจะมีก็ได้นะเป็นปลาวาฬขาวสายพันธุ์หนึ่ง แต่ตัวผู้จะมีเขี้ยวยื่นออกมาจากปากขอ

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด มันแสดงภาพของวิญญาณชายผู้ไว้หนวดเคราผู้โดดเดี่ยว กำลังถูกจูงโดยเชือกไปยังสู่ชีวิตหลังความตายโดยสตรีคนหนึ่ง ซึ่งภาพผีดังกล่าวปรากฏอยู่บนแผ่นดินเหนียวโบราณขนาดเล็กเท่าฝ่ามือจากเมืองบาบิโลน ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 3,500 ปีก่อน โดยมีบางส่วนของแผ่นที่หายไป ผู้ค้นพบชี้ว่าอีกด้านหนึ่งของแผ่นจารึกนี้บรรยายถึงพิธีกรรม วิธีการขับไล่ผีชายที่กลับมายังโลกเนื่องจากรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และออกมาหลอกหลอนโดยการหาคู่ครองผู้หญิงให้ เพื่อให้เขาได้ไปสู่สุขติในยมโลก ซึ่งในอดีตแผ่นจารึกดังกล่าวอาจเคยอยู่ในห้องสมุดเวทมนตร์ที่บ้านหมอผี หรือในศาสนถานของคนในเมืองบาบิโลน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาษาอักษรรูปลิ่ม ที่ใช้กันในยุคโบราณ ที่ปรากฏอยู่บนแผ่นจารึกนี้ เขาเผยว่าวัตถุโบราณสุดน่าทึ่งดังกล่าวถูกมองข้ามมาเป็นเวลานาน โดยมันแสดงถึงความเชื่อเรื่องผีสำหรับคนยุคดังกล่าว และต้องการช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ไม่เป็นสุขเหล่านี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์เขาชี้ว่าสิ่งที่ผีเพศชายในภาพต้องการคือการหาคู่รักให้ เพื่อที่จะพาเขาไปสู่สุขติภาพเขียนนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในคลังเก็บวัตถุโบราณของพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ศตวร

ตำนานการเกิดฟ้าระเบิดทุ่งกุสก้า

ตำนานการเกิดฟ้าระเบิดทุ่งกุสก้า

ตำนานการเกิดฟ้าระเบิดทุ่งกุสก้า เขตเยนิเซเยสค์ มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่าน พ็อดคาเมนนายา ทุงกุสก้า แถวนั้นไม่มีผู้คนอยู่อาศัย ธรรมชาติแมกไม้สายน้ำ ใครจะไปรู้ ว่าที่ดี ๆ ขนาดนั้น จะถูกผู้บุกรุกจากแดนไกล มาทำให้ราบพนาสูญ มิติที่ 6 สัปดาห์นี้ เราจะคุณย้อนเวลา กลับไปพบกับเหตุการณ์ระเบิดแห่งทุงกุสก้า การบุกรุกจากนอกพิภพของจริง ที่ได้ทิ้งร่องรอยปริศนา มาจนถึงปัจจุบัน เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนหน้านั้น ที่นั่นเคยเผชิญกับสิ่งใด วิจารณญาณมาพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อม จงมาดูกันต่อดีกว่าว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ มันคืออะไรกันแน่ ตามเวลาท้องถิ่น ประมาณ เจ็ดนาฬิกา สิบเจ็ดนาที หากอ้างอิงตามปฏิทินมาตรฐาน มันจะตรงกับวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1908 และจะตรงกับวันที่ 17 มิถุนายน เมื่อเทียบกับปฏิทินท้องถิ่นรัสเซีย เรื่องราวเกิดขึ้นที่นั่น เขตเยนิเซเยสค์ จากปากคำคนพื้นที่ พวกเขาสังเกตเห็นบางสิ่ง ลำแสงสีน้ำเงิน มันสุกสว่าง สว่างเกือบเท่าดวงอาทิตย์ เคลื่อนผ่านท้องฟ้า ยาวนานประมาณเกือบสิบนาที เกิดแสงวาบสว่างไปทั่วพื้นที่ ตามด้วยเสียงสนั่นราวกับปืนใหญ่ หลายคนรายงาน จุดกำเนิดเสียงดังกล่าว มันมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตามด้วยแรง

“งูยักษ์คองโก”เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

“งูยักษ์คองโก”เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง นาวาเอกเรมี ทางนายทหารท่านนี้ อาศัยช่วงเวลา ที่ ฮ.ของเขาบินเข้าไปใกล้มัน ถ่ายภาพของมันเอาไว้ เขาระบุลักษณะของมันเพิ่มเติมว่า มันมีลำตัวสีน้ำตาลอมเขียว หน้าท้องสีขาว ความยาวกว่า 15 เมตร ยาวมากเลยนะครับ น่าจะยาวกว่างูจงอางบ้านเราซักสองเท่า หัวของมันขนาดกว้างหกสิบเซนติเมตร ขากรรไกรกว้าง 90 เซนติเมตร เรียกได้ว่าใหญ่มากพอ ที่จะโอบรถบัสทั้งคันได้ ซึ่งท้ายบทความ ได้ให้ข้อสรุปว่า ไม่มีใครรู้ ว่ามันเป็นงูสายพันธุ์ใดกันแน่ เพราะตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่เคยมีใครพบงูตัวนี้อีกเลย บางคนเชื่อว่า งูที่นายทหารเรมีพบ น่าจะเป็นสายพันธุ์ ไททันโอโบอา งู่ที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก ที่ใหญ่กว่าพันธุ์อนาคอนด้า ระดับหลายเท่าตัว ตรงนี้ขอเพิ่มให้นิดนึงครับ ไททันโอโบอาเนี่ย มันเป็นงูสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์ มีขนาดประมาณในเรื่องเล่านี้ครับ เพียงแต่ มันสูญพันธุ์ไปกว่าสิบล้านปีแล้ว หมายความว่า งูในเรื่องเล่า อาจใช่หรือไม่ใช่ไททันโอโบอาก็ได้นะครับ ข้อมูลนี้ของไททันโอโบอานี้ ผู้บรรยายได้มาจาก มหาวิทยาลัยโทรอนโต คณะวิทยาศาสตร์สาขาบรรพชีวินวิทยานะครับ โดยเว็บแรกที่น่าจะเล่าเรื่องนี

โรงพยาบาลทหาร”HospitalBeelitz”

โรงพยาบาลทหาร

โรงพยาบาลทหาร”HospitalBeelitz” HospitalBeelitz เบลิทซ์เป็นอาณาเขตของโรงพยาบาลทหารขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างไปแล้วในปัจจุบัน ซึ่งเก็บงำความลี้ลับ ความหลอน และความสยองขวัญไว้ภายใน เพื่อให้ได้ทราบกันว่าชะตากรรมข้างหน้าของมันจะเป็นอย่างไร ต่อไปนี้เป็นคำบอกเล่าของผู้ที่เข้าไปเผชิญกับความสยองขวัญของโรงพยาบาลแห่งนี้ เขาบอกว่าเมื่อเหยียบย่างเข้าไปในเขตโรงพยาบาลร้างแห่งนี้ ก็ต้องเผชิญกับแมลงวันฝูงใหญ่แตกฮือออกมาต้อนรับจากทุกทิศทาง ส่งเสียงหึ่งๆ ดังกระหึ่ม พุ่งเป็นกลุ่มใหญ่เข้ามาตอมใบหน้า ชอนไชบริเวณดวงตา เกาะตามปากเขาอย่างมุ่งร้าย มีท่าทีราวกับว่าต้องการปกปักรักษาความลับในอดีตไว้ไม่ให้แพร่งพรายออกไป เขาเล่าว่าได้พยายามปัดฝูงแมลงวันเหล่านั้นออกจากร่าง แล้วเดินรุดหน้าต่อไปตามเฉลียงทางเดินที่พื้นแตกสะเก็ด ที่ซึ่งมีแสงสว่างจากแสงแดดเล็ดลอดเข้ามากระทบพื้น กรอบหน้าต่างของเฉลียงนั้นยังดูมั่นคง และกระจกหน้าต่างยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย หลังจากนั้นก็พาตัวเลี่ยงพ้นจากแมลงวันฝูงใหญ่นั้นมาได้ เขาบอกว่าแมลงวันเหล่านี้ไม่ใช่แมลงวันธรรมดาทั่วไป หากทว่ามันเป็นแมลงวันผีที่อาศัยเกาะกินเศษซากเนื้อคนไข้ที่ถู

สุสานแห่งปารีส

สุสานแห่งปารีส

สุสานแห่งปารีส Paris Catacombs สุสานที่อัดแน่นไปด้วยกระดูกและหัวกะโหลกหลายล้านชิ้น จากร่างไร้วิญญาณกว่าหกล้านชีวิต ที่ถูกเรียงสูงพะเนินเต็มผนังทางเดินทั้งสองข้าง ซึ่งแม้ว่าจะมีบรรยากาศชวนหลอน แต่ก็เป็นที่เที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย  แรกเริ่มนั้นพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นอุโมงค์เหมืองหินปูนมาก่อนนับตั้งแต่สมัยโรมัน หินปูนถูกขุดขึ้นมาใช้ในการก่อสร้างอาคารและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของเมือง จากเหมืองที่ขุดเจาะอยู่รอบนอกเมืองก็ค่อย ๆ คืบกินพื้นที่เข้ามาใจกลางเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ยังคงเป็นเหมือนหินปูนเรื่อยมาจนกระทั่งช่วงครึ่งหลังศตวรรษที่ 18  ในยุคศตวรรษที่ 18 สุสานทั้งหลายแห่งปารีเซียง รวมทั้ง Les Innocents สุสานที่ใหญ่ที่สุดในปารีส เริ่มประสบปัญหาพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับศพใหม่ ๆ นำมาซึ่งการร้องเรียนปัญหาการฝังศพที่ไม่ถูกต้อง ปากหลุมถูกเปิดทิ้ง ศพที่ไม่ได้รับการฝัง จนชาวบ้านใกล้เคียงต่างร้องเรียนถึงกลิ่นและเชื้อโรคที่มาจากศพ  ลึกลงไปในใต้ถนนสายสุดแสนโรแมนติกของกรุงปารีส มีอุโมงค์โบราณที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ให้รกร้างมาอย่างยาวนานที่เต็มไปด้วยซากกระดูกของผู้คนกว่า 6 ล้านชีวิต ทอดตัวยา

เชอร์โนบิล“Chernobyl”

เชอร์โนบิล“Chernobyl”

เชอร์โนบิล“Chernobyl” เชอร์โนบิล (Chernobyl) ตั้งอยู่ในเขตของ เมืองพริเพียต (Pripyat) ประเทศยูเครน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลในสมัยที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตความน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ 26 เมษายน 1986  เชอร์โนบิล (Chernobyl) เมืองพริเพียตที่ประเทศยูเครน เชื่อว่าหลายคนนั้นคงทราบกันอยู่แล้วว่าในวันนี้รั้นเกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก และสิ่งที่ระเบิดนั้นก็คือโรงงานนิวเคลียร์ซึ่งในตอนนั้นมีผู้คนจำนวนมากที่ล้มป่วยและล้มตายจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งยิ่งงใหญ่ของโรงงานนิวเคลียร์ หลังจากนั้นไม่นานผู้คนนั้นก็พบเจอกับโรคร้ายที่ลอยมาตามอากาศและโรคร้ายที่ว่านั้นมันก็กลายมาเป็นโรคมะเร็งกลายพันธุ์ที่ค่อนข้างมีความหน้ากลัว   แม้ว่าจะผ่านมานานมากกว่า 30 ปีแล้วสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในตำนานที่ผู้คนนั้นล่ำลือกันว่าคือ สถานที่ผีดุอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นที่ที่ผู้คนนั้นนเสียชีวิตอย่างทุนทุรายและเสียชีวิตจำนวนมากในเวลาไม่กี่ปี แถมว่าบางคนที่เสียชีวิตนั้นยังไม่ทราบว่าตัวเองตายไปและได้กลับใสเดิน