เรื่องเล่าของแฟรงเกนสไตน์
เรื่องเล่าของแฟรงเกนสไตน์ นั้นเริ่มต้นด้วยที่ว่า แฟรงเกนสไตน์นั้นก็คือผีดิบประเภทหนึ่งที่ได้มีการเขียนโดยนักเขียนที่เขียนนวนิยายที่มีลักษณะของเนื้อเรื่องที่เป็นเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเศร้าอย่าง “แมรี่” โดยประวัติความเป็นมาของตัวแฟรงเกนสไตน์นั้นได้เริ่มต้นที่ว่า ได้มีชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ซึ่งตัวเขานั้นเป็นหมอผ่าตัดที่ชอบในการทดลองเป็นอย่างมาก ตัวเขานั้นได้พยายามที่จะทดลองอะไรแปลกๆ ในหลายๆครั้งและหลายๆ อย่างก็มักจะสำเร็จบ้างและก็ไม่สำเร็จบ้าง มันเป็นธรรมดาของนักทดลอง และตอนนั้นเขาได้พยายามที่จะทดลองอะไรบางอย่างที่มันเป็นการทดลองที่ค่อนข้างผิดเกินมนุษย์ไปอย่างมาก วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ในตอนนั้นเขาได้พยายามที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยใช้วิธีการที่แปลกประหลาด โดยการนำเอาชิ้นส่วนต่างๆ ของมนุษย์มารวมประกอบเข้าด้วยกัน โดยที่ใช้เครื่องมือในห้องผ่าตัดที่เขาได้ใช้มันมาจนชำนาญมากมาใช้ จนสุดท้ายนั้นตัวเขานั้นก็ได้ทำการทดลองมันจนสำเร็จ และคืนชีพขึ้นมาจนได้ แต่การทดลองในครั้งนี้นั้น นับได้ว่าเป็นการทดลองที่เป็นการผิดพลาดอย่างมาก เพราะว่าสิ่งที่เขาได้คืนชีพมานั้นมีลักษณ
ปีศาจสาวฤดูร้อน Lady Midday
ปีศาจสาวฤดูร้อน Lady Midday โดยปกติแล้วนั้นวิญญาณหรือภูตผีปีศาจนั้นมักจะปรากฏตัวในช่วงเวลากลางคืน แต่มันจะเป็นอย่างไรถ้ามันคือวิญญาณที่ชอบที่จะปรากฏตัวในตอนกลางวัน วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องราวของวิญญาณที่จะมาพร้อมกับหน้าร้อนอย่าง Lady Midday Lady Midday เป็นหนึ่งตัวละครจากหลายๆตัวละครในตำนานที่พบได้ทั่วไปในประเทศสลาฟต่างๆ ทางตอนยุโรปตะวันออก ตัวปีศาจตนนี้นั้นจะเป็นปีศาจที่เป็นเพศหญิง เธอมักจะถูกมองว่าเป็นหญิงสาวในชุดขาวที่เดินเตร่ไปตามทุ่งนา ซึ่งปีศาจตอนนี้นั้น เธอจะทำร้ายชาวบ้านที่ทำงานตอนเที่ยง โดยการที่เธอนั้นจะทำให้เกิดโรคลมแดดและรู้สึกว่ามีอาการปวดที่บริเวณคอ บางครั้งเธอถึงกับคลั่งไคล้กับการกระทำเหล่านั้นที่ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณแถวๆเธอนั้นได้รู้สึกบาดเจ็บ Lady Midday นั้นเป็นปีศาจหรือวิญญาณที่ไม่เหมือนกับพวกวิญญาณที่อยู่ทั่วไป ซึ่งบางวิญญาณนั้นก็จะออกมาปรากฏในแค่ช่วงเวลากลางคืนและไม่สู้ดีนักในช่วงตอนกลางวัน แต่สำหรับวิญญาณตนนี้นั้น มันจะเป็นวิญญาณผู้ซึ่งทำให้ตัวมันนั้นปรากฏออกมาให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดในช่วงกลางฤดูร้อน โดยการปรากฏตัวของเธอนั้น เธอจะใช้รูปแบบของเมฆฝุ่นที่หมุนวนลง
ตำนานผีบ้านโคลน
ตำนานผีบ้านโคลน เกือบทุกรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านโคลนเต็มไปด้วยความลึกลับ ซึ่งบางทีอาจเป็นสิ่งที่ทำให้อาคารแห่งนี้น่าสนใจสำหรับนักล่าผีและผู้แสวงหาความตื่นเต้น บ้านโคลนแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1800 บนเนินเขาเล็กๆ ในแลงคาสเตอร์ รัฐโอไฮโอ และขายในปี 1920 ถูกขายให้กับครอบครัว Hartman ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สินอยู่ แม้ว่านามสกุลจะเปลี่ยนไปเป็นมรดกของ Lulu Hartman-Mast ในช่วงทศวรรษที่ 1930 บ้านหลังนี้ถูกละทิ้ง และในปีต่อๆ มาก็มีรายงานว่าบ้านหลังนี้นั้นได้มีพวกฮิปปี้เข้ามาถูกแล และหลังจากนั้นบ้านหลังนี้ก็มีอาการที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถูกเรียกกันจากปากหลายปากว่าเป็นบ้านที่เป็นลางร้าย ในไม่ช้าหลังจากนั้น บ้านโคลนแห่งโอไฮโอก็เปิดทางให้กับเรื่องราวที่น่าขนลุกมากมาย เรื่องราวลึกลับ อันที่จริงสิ่งเดียวที่แน่นอนเกี่ยวกับที่ดินลึกลับก็คือมันถูกรื้อถอนเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2015 ตามคำแนะนำของ Jeanne Mast เจ้าของปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป ภาระในการเป็นเจ้าของบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่องผีมากมาย ก็มากเกินไปสำหรับเธอ ซึ่งเธอต้องคอยมักจะดูผู้บุกรุกเอง หรือจะจ้
ผีเปรตสาวญี่ปุ่น
ผีเปรตสาวญี่ปุ่น ฮาจิซาคุซามะ (Hachishakusama) นั้นเป็นปีศาจที่สามารถพูดได้ว่าตำนานฮาจิซาคุซามะนั้นเป็นที่โด่งดังอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับคนไทยนั้นหากพูดชื่อออกมาก็อาจจะยังมีงงอยู่บ้าง แต่ถ้าได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความน่ากลัวของปีศาจตนนี้แล้ว ทุกคนส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่าเหมือนเคยได้ยินมาก่อนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นหากได้ยินชื่อเกี่ยวกับ ฮาจิซาคุซามะแล้วพวกเข้าก็จะรู้เกี่ยวกับความน่ากลัวและตำนานของมันที่มีมาแล้วตั้งแต่โบราณและมันได้สร้างความน่ากลัวให้กับเหล่าคนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน สำหรับประวัติของฮาจิซาคุซามะ ได้มีการพูดถึงและบันทึกเอาไว้โดยชาวบ้านและผู้ทีได้พบเจอกับปีศาจตนนี้ว่า เดิมทีแล้วนั้นฮาจิซาคุซามะเป็นปีศาจที่ได้สิงสถิตอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแต่ปีศาจตนนี้นั้นได้ถูกกักขังหรือที่เรียกว่าผนึกวิญญาณของปีศาจตนนี้ไว้ตรงที่รูปปั้นของพระพุทธรูปของชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกว่าจิโซ ตัววิญญาณของปีศาจนั้นได้ถูกพนึกไว้ในรูปปั้นหินนี้เป็นเวลานานแล้วซึ่งรูปปั้นหินนี้ได้มีอยู่จำนวนสีฝั่งเป็นรู้สี่เหลี่ยมรอบหมู่บ้าน ซึ่งทุกรูปปั้นนั้นก็ได้มีวิญญ
เก้าอี้แห่งความตาย
เก้าอี้แห่งความตาย ใครที่มานั่งเก้าอี้ตัวนี้ก็ต่างต้องจบชีวิตกันทุกคน เหตุการณ์ของเก้าอี้ผีสิงตัวนี้เกิดขึ้นในสมัยก่อนช่วงปี 1702 ได้มีนักโทษคนหนึ่งชื่อว่า Thomas Busby ที่ได้กระทำความผิดอะไรบางอย่างที่ร้ายแรงถึงขนาดที่ว่าตัวเขานั้นต้องโดนประหารหลังจากที่ได้รับโทษในคุกเรียบร้อย ก่อนที่เขาจะโดนประหารนั้นก็ต้องมีการสอบถามเกี่ยวกับมื้ออาหารสุดท้ายของเขาที่เขาต้องการจะทานก่อนจะโดนประหาร ซึ่งตัวเขาก็ได้เลือกที่จะไปทานอาหารมื้อสุดท้ายของเขาที่ผับแห่งหนึ่งที่เขาชอบไปตลอดก่อนหน้านี้ และเขาก็ได้ทานอาหารตามที่เขาตั้งใจเอาไว้ ก่อนที่ตัวเขาจะถูกนำกลับไปที่คุกเพื่อรอเวลาประหารนั้น อยู่ๆตัวเขาได้พูดออกมาหนึ่งประโยคที่ทำเอาทุกคนรู้สึกกลัวก็คือ “หากใครที่มานั่งเก้าอี้ตัวนี้ ขอให้ความตายอันเฉียบพัน เข้าสู่ผู้นั้น ผู้ที่อาจหาญมานั่งเก้าอี้ของข้า” และหลังจากนั้นตัวเขาก็ได้ถูกนำตัวไปประหารและได้ตายลงไปโดยที่ถูกแขวนคอ หลังจากการตายของนักโทษ คนนี้ก็ไม่ได้มีใครคิดอะไรและได้ใช้ชีวิตตามปกติของพวกเขา แต่หลังจากนั้นมันก็ได้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นมาเพราะว่าใครก็ตามที่ไปนั่งเก้าอี้ตัวที่นักโทษคนนั้นนั่งไปวันก่อนก็ต้อ
อาคารดาโกต้าสุดสยอง
อาคารดาโกต้าสุดสยอง เป็นอาคารที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม และเรื่องน่าขยะแขยงเกิดขึ้นมา อาคารหรืออพาร์ตเมนต์ Dakota เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมที่สุดในนิวยอร์กซิตี้ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับเรื่องราวที่เป็นด้านมืดของตึกแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นฉากหลังของการฆาตกรรมของจอห์นเลนนอน เรื่องราวของอาคารดาโกต้า บางเรื่องระบุว่าเป็นสถานที่สำคัญในนครนิวยอร์ก โดยตึกแห่งนี้มีผีสิงและถูกสาปแช่ง ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับอาคารหลังนี้ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงหล่ะก็ ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ หากมีการพูดถึงคำสาปของอาคารดาโกต้า คำสาปนั้นอาจเด่นชัดที่สุดกับการตายของเลนนอน แน่นอน อาคารขนาดใหญ่และสง่างามนี้ที่ถูกสร้างขึ้นในทศวรรษ 1880 นับตั้งแต่การสร้างอาคารแห่งนี้มา น่าจะมีเรื่องที่เกิดเหตุอย่างน้อยสองสามเหตุการณ์ที่ได้ให้คนรอบข้างต่างรู้จักเกี่ยวกับอาคารแห่งนี้กันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ประวัติศาสตร์มีความน่าสนใจมากกว่าที่อื่น ส่วนใหญ่คือเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นใกล้ชิดกับบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย นอกจาก Lenno
ตำนานวิลล่าเดอเวคคี
วิลล่า เดอ เวคคี ในประเทศอิตาลี ได้มีบ้านหลังหนึ่งที่มีลักษณะสีแดง ที่ประชาชนที่เป็นคนอิตาลีต่างเรียกว่าวิลล่าที่มีผีสิงมากที่สุด ตั้งอยู่ในตอนเหนือของอิตาลีและทางตะวันออกของทะเลสาบโคโมในภูเขา Corte nova โดยบ้านหลังสีแดงนี้มีการอ้างกันว่าซ่อนโศกนาฏกรรมเอาไว้มากมาย บ้านหลังนี้รู้จักกันในชื่อ วิลล่า เดอ เวคคี นอกจากนี้ยังเรียกกันว่า The Witches House และ Ghost House ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็ได้กลายเป็นบ้านร้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้ปัจจุบันจะกลายเป็นร้างขนาดไหน แต่ความน่าสยดสยองเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้ก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักฤดูร้อน ของ Count Felix de Vecchi De Vecchi ซึ่งเป็นชายผู้รักในการอ่านหนังสือและเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก ได้เลือกการผสมผสานระหว่างสไตล์บาโรกและคลาสสิกตะวันออกสำหรับบ้านหลังใหม่หลังนี้ สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นและออกแบบมาด้วยความสะดวกสบายที่ทันสมัยตามยุคสมัยช่วงเวลานั้น ซึ่งรวมถึงท่อให้ความร้อนในร่ม เครื่องดัมบ์เวตเตอร์ และน้ำพุแรงดันขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่เขานั้น ไม่เคยได้เห็นบ้านสร้างเสร็จ เนื่องจากเขาเสียชีวิตระห
เดอะควีนแอนน์โรงแรมหลอน
เดอะควีนแอนน์ โรงแรมหลอน อาคารนี้เคยเป็นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิง และว่ากันว่าครูใหญ่ของโรงเรียนคือ Miss Mary Lake ตัวเธอได้เสียชีวิตลงใน ณ ที่แห่งนี้และแน่นอนว่าวิญญาณของเธอก็ยังคงอยู่ในโรงแรมและปรากฏตัวในห้อง 410 มันคือห้องชุด ของ Mary Lake เธอจะค่อยๆ เผยตัวออกมาให้นักเดินทางที่กำลังหลับอยู่ภายในห้องพัก โดยแขกส่วนใหญ๋จะหลับอยู่และได้เจอกับวิญญาณของเธอเข้า สถานที่นี้ถูกตั้งขึ้น แมรี่ ลัค เป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้ เธอเป็นทั้งผอของโรงเรียนนี้และยังเป็นอาจารย์ที่สอนเด็กผู้หญิงเกี่ยวกับถึงศิลปะของการเป็นผู้หญิงที่ถูกต้อง เธอเป็นที่นิยมในการชื่นชอบและรู้จักกันอย่างมากในหมู่นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานและอาศัยอยู่ที่นั่น ทุกคนต่างรู้สึกดีที่มีเธอเป็นผู้ดูแลพื้นที่แห่งนี้ แต่ต่อจากนั้นทุกคนก็ต้องรู้สึกโศกเศร้าเมื่อเธอเสียชีวิตเพียงไม่กี่ปีหลังจากโรงเรียนเปิด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ควีนแอนน์มีเจ้าของใหม่ขึ้นมา เจ้าของบอร์เดลโล่ และถูกดูแลโดยผู้ดูแลโบสถ์หลายคน พื้นที่นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของสมาคมลับที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ และปัจจุบันนี้ก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรม ว
ตำนานความหลอนลาวังเซวู
ตำนานความหลอน ลาวัง เซวู สงคราม ความทุกข์ทรมาน และการนองเลือดได้เติมเต็มประวัติศาสตร์ของโลก และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่อาคารเก่าแก่หลายแห่งของโลกมีประวัติศาสตร์ที่น่าสลดใจที่ยังคงเป็นเหมือนเครื่องหมายไว้จนถึงทุกวันนี้ ลาวัง เซวู ในเมืองเซมารัง เมืองหลวงของชวากลาง ได้พบเจอเหตุการณ์ที่ทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวอินโดนีเซีย มีประตูหลายบาน โค้ง และหน้าต่างบานใหญ่ประมาณ 600 บาน อาคารที่ดูเหมือนเขาวงกตนั้นดูลึกลับสำหรับหลายคน ตึก A อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโบสถ์ที่มีหน้าต่างกระจกสี อย่างไรก็ตาม หน้าต่างเหล่านี้ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์ แต่บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของทางรถไฟและความเฉลียวฉลาดของชาวดัตช์ ชาวดัตช์อาศัยอยู่ในอินโดนีเซียมาหลายศตวรรษแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการสร้างทางรถไฟในอินโดนีเซีย พวกเขาจึงเลือกเซมารังเป็นสำนักงานใหญ่สำหรับสำนักงานบริหารของตน อาณานิคมดัตช์ประสบปัญหาอย่างมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย พวกเขาเข้ายึดลาวังเซวูและเปลี่ยนห้องใต้ดินในอาคาร B ให้เป็นเรือนจำ อาณานิคมดัตช์จำนวนมากถูกคุมขัง ทรมาน และกระทั่งถูกประหารชีวิตที่นี่ ผู้คน
โลตัสฮอลบ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในโลก
โลตัส ฮอล บ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในโลก บ้านผีสิง ที่เฮี้ยนที่สุดในโลก เพราะนี่คือหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังของประเทศไอร์แลนด์ และกลายเป็นหมุดหมายของบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องแวะไปสัมผัสความหลอนด้วยตัวเอง โดยสถานที่ดังกล่าวถือเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในเชิงสถาปัตยกรรมและการบันทึกเรื่องราวต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวความเล้นลับชวนสยองของบ้านหลังนี้ที่ถูกเล่าขานกันมานานหลายศตวรรษบริเวณคาบสมุทรฮุกในปัจจุบัน ตัดสินใจสร้างบ้านชื่อว่า เรดมอนด์ ฮอลล์ เพื่อทดแทนปราสาทหลังเดิมที่เริ่มทรุดโทรมลง โดยครอบครัวเรดมอนด์ได้ถือครองทรัพย์สมบัติชิ้นนี้ไว้นานถึง 310 ปี ก่อนจะขายบ้านให้กับครอบครัว ลอฟตัส และเปลี่ยนชื่อเป็น ลอฟตัส ฮอลล์ ตามเจ้าของใหม่ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า แอนน์ ลูกสาวคนเล็กในครอบครัวที่กำลังอยู่บ้านพร้อมกับคุณพ่อ ชาร์สล์ ท็อตแนม และแม่เลี้ยง เจน คลิฟฟน์ ในค่ำคืนนั้นระหว่างที่กำลังเกิดพายุโหมกระหน่ำ มีเรือปรากฏขึ้นบริเวณชายฝั่งและพบเห็นชายคนหนึ่งกำลังเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย ชาร์ลส์ผู้เป็นพ่อจึงให้ความช่วยเหลือแก่ชายคนดังกล่าวด้วยการเปิดประตูให้เข้ามาหลบภัย ซึ่งเ