ตำนานบ้านกระจกอาถรรพ์แห่งเมืองคาดิซ

ตำนานบ้านกระจกอาถรรพ์แห่งเมืองคาดิซ มันมีบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ในเมืองคาดิซ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศสเปน ชาวบ้านเรียกบ้านแห่งนี้ว่า La Casa de los Espejos หรือ The House of Mirrors ที่หมายถึง บ้านกระจก มันคือบ้านตึกแถวอายุร้อยกว่าปี มีขนาดสามชั้นที่ดูเด่นเป็นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับของชาวสเปนยุคเก่า สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน ซึ่งตำนานเมืองดังกล่าว มันก็คือเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ในช่วงเวลานั้นมีหัวหน้าครอบครัวยศพลเรือตรีผู้หนึ่ง ที่มีหน้าที่สำคัญอยู่กับทางกองทัพเรือของสเปน เขาได้ซื้อตึกแถวบล็อกหนึ่งในเมืองคาดิซ และเข้ามาพักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสาวที่น่ารักด้วยภาระหน้าที่สำคัญของเขา ทำให้ท่านนายพลจะต้องจากบ้านจากเมืองเพื่อไปปฎิบัติหน้าที่บนเรือ ไปครั้งหนึ่งก็จะกินเวลายาวนานจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการเดินทางในแต่ละครั้ง เขาจะได้ไปยังประเทศต่าง ๆ มากมายและก็ไม่มีครั้งไหน ที่ท่านจะลืมหน้าที่สำคัญเลยสักครั้ง นั่นคือ “การเสาะหากระจกบานสวย” เพื่อนำกลับมาฝากลูกสาวที่น่ารัก ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ที่พอท่านนายพลหลับตาครั้งใด ภาพของเธอตอนกำลังโบกมือน้

ผีโยไค

ผีโยไค สิ่งแปลกประหลาด ภูตผีปีศาจและวิญญาณเหนือธรรมชาติของญี่ปุ่น มีรูปแบบที่แปลกแตกต่างมากมายนับไม่ถ้วน พวกมันมีตั้งแต่สัตว์ที่ไม่เป็นอันตรายไปจนถึงผีผู้หญิงเร่ร่อนเหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญ นี่ยังไม่พูดถึงรองเท้าแตะไม้ โคมไฟและแม้แต่ร่มกันแดด โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะมีความสามารถเหนือธรรมชาติและในขณะที่บางตัวมีความร้ายกาจเป็นพิเศษ แต่หลายคนก็รู้กันดีว่าก่อให้เกิดความเสียหายและบางตัวก็คิดว่าจะนำโชคดีมาให้ โยไคเป็นแหล่งที่มาของนิทานชวนหลอนในญี่ปุ่นมานานและมักถูกนำไปแสดงในวรรณกรรมและศิลปะโดยมีการจินตนาการใหม่ๆเพิ่มเติมเข้าไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประวัติความเป็นมาของโยไค โยไค เป็นส่วนสำคัญของความเชื่อหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่นซึ่งมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมาตลอดหลายศตวรรษ เดิมใช้เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ พวกมันถูกมองว่ามีพลังพิเศษ แต่เมื่อเข้าใจความลึกลับของโลกมากขึ้น พลังของโยไคก็ถูกลดลงจนเหลือเพียงเป็นความไม่สะดวกหรือรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดเท่านั้น การเน้นไปที่ตัวตนทางจิตวิญญาณนั้นมาจากประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาภูตผีของญี่ปุ่น: ความเชื่อที่ว่าจิตวิญญาณสถิตอยู่ใน

ตำนาน“ผีเจ้าสาวฟันดำ”

ตำนาน“ผีเจ้าสาวฟันดำ” เรื่องทั่วไป เกร็ดความรู้รอบตัว เทคนิคต่างๆ สาระน่าสนใจ ตำนาน ผีเจ้าสาวฟันดำ ของประเทศญี่ปุ่น ตำนาน ผีเจ้าสาวฟันดำ ชาวญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ผู้หญิงในยุคนั้นมักจะมีค่านิยม ว่าหยิงสาวจะต้องมีรูปร่างท้วม ๆ ทาหน้าให้เป็นสีขาว ผมต้องเป็นสีดำและที่สำคัญนั้นปากต้องเป็นสีแดงและฟันต้องเป็นสีดำก่อนจะเริ่มพิธีแต่งงาน ฝ่ายหญิงสาวจะทาปากเป็นสีดำเพื่อให้ตัดกับใบหน้า เพราะเวลาแต่งหน้านั้น สีของฟันจะออกเป็นสีเหลืองซึ่งตัดกับสีของใบหน้าที่ขาว จึงเป็นธรรมเนียมในการทาฟันให้เป็นสีดำของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง และสำหรับเรื่องของผีที่จะนำมาเล่าวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีสาวฟันดำ ที่มาที่ไปของตำนานผีเจ้าสาวฟันดำ ว่ากันว่าเธอคือหญิงสาวที่กำลังจะแต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่เมื่อคืนก่อนแต่งงานนั้น ทางฝั่งชายหนุ่มก็แอบหนีออกจากบ้านเพราะตามความจริงแล้ว เขาแค่ถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เพราะ ฝ่ายหญิงนั้นทางบ้านมีฐานะดี แถมฝ่ายหญิงก็ยังชื่นชอบฝ่ายชายด้วย ทางฝั่งพ่อแม่ของฝ่ายชายจึงตกลงให้แต่งงานกันแต่ด้วยความที่ฝ่ายชายนั้นมีคนที่รักอยู่ก่อนหน้าที่จะถูกจับมาแต่งงานแล้ว ในคืนก่อนวันแต่งงาน

ตำนานแม่มดขี่ครก“บาบายาก้า”

ตำนานแม่มดขี่ครก“บาบายาก้า” ซึ่งเป็นตำนานแม่มดของกลุ่มประเทศทางสลาวิก เช่น ประเทศรัสเซีย บัลแกเรีย เซอร์เบีย เป็นต้น ตำนานนี้มาจากเรื่องเล่าของพวกชาวรัสเซียและฟินแลนด์ที่อยู่ในป่าทางซีกโลกเหนือ ในเขตนี้นี้มีรูปปั้นโบราณที่คนในแถบนั้นเรียกว่า ยากา ซึ่่งสมัยก่อนพวกชาวบ้านจะสร้างศาลเป็นกระท่อมเล็กๆ ให้แก่ เทวียากา ซึ่งรูปปั้นเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆ บนต้นไม้ และผู้คนจะนำของขวัญไปถวาย ชาวท้องถิ่นในฟินแลนด์ และรัสเซียนับถือรูปปั้นเหล่านี้เป็นเทวีเจ้า และมาขอพร หรือคำปรึกษา ส่วนตัวแม่มด บาบา ยากา เอง จะแตกต่างจากแม่มดของประเทศตะวันตกทั่วไป ที่มักจะขี่ไม้กวาดไปที่ต่างๆ ในขณะที่ บาบา ยากา นั้น จะขี่ครกที่มีลักษณะยาวๆ และมี สาก ยาวแกว่งไกวในอากาศยามจะออกบินไปไหนซึ่งลักษณะ ก็ คล้ายๆกับไม้กวาด แต่เปลี่ยบนเป็นครก นางเป็นหญิงชราแก่มาก ผิวหนังดูเหี่ยวแห้ง จนน่ากลัว จนออกสยองเล็กๆ รูปร่างสูงใหญ่แต่ผอมเกร็ง และมีพละกำลัง คล้ายผู้ชาย นางมีฟันที่เคลือบด้วยเหล็ก รักสวยรักงาม และมีเคล็ดลับอายุวัฒนะด้วยการกินเนื้อเด็ก ตำนานแม่มดขี่ครก บาบา ยากา บาบา นี้จะแปลว่า พ่อ ในภาษาทางอาหรับ และอิหร่าน ซึ่งคนล

ผีแม่ม่าย“นาเบลา”

ผีแม่ม่าย“นาเบลา” หลายคนคงคุ้นเคยกับเรื่องราวของผีแม่ม่ายในวัยเยาว์ ตำนานสยองขวัญประจำถิ่นหลายพื้นที่ในประเทศไทย แต่ละปี ผู้ชายอายุตั้งแต่ 20 จนถึง 50 ปีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่างระวังตัวไม่ให้เป็นเหยื่อของวิญญาณหญิงม่ายมักมากในกามที่ตามหาผู้ชายในโลกคนเป็นเพื่อนำไปอยู่กินด้วย ผีแม่ม่ายชื่นชอบผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นพิเศษ และหากผู้ใดถูกวิญญาณสตรีเลือกแล้ว คนผู้นั้นจะถูกพบเป็นศพคาที่นอนในวันต่อมาโดยไม่มีแม้แต่บาดแผลใดๆผู้คนยังคงหวาดกลัวเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และในแต่ละปีมักมีเหตุการณ์ที่ผู้ชายในหมู่บ้านที่แข็งแรงดีเสียชีวิตเป็นปริศนาติดๆ กัน เพื่อเป็นการป้องกันวิญญาณผีแม่ม่าย ผู้คนจะนำเอาปลัดขิกอันใหญ่ทาสีแดงวางไว้หน้าบ้านหรือตามถนนหนทางในหมู่บ้าน ไม่ก็นำหุ่นผู้ชายที่ทำขึ้นโดยแสดงอวัยวะเพศขนาดใหญ่เอาไว้ ชาวบ้านเชื่อว่าเมื่อวิญญาณผีแม่ม่ายเห็นปลัดขิกที่มีรูปทรงคล้ายอวัยวะเพศ นางจะคว้าสิ่งนี้แทนที่จะนำชีวิตของชายคนใดในหมู่บ้านไปกับตน บางพื้นที่ที่เชื่อว่าวิญญาณผีแม่ม่ายอาละวาดหนัก คนในครอบครัวจะนำเสื้อผ้าสตรีมาให้ผู้ชายในบ้านสวมใส่ ก่อนจะเขียนตัวอักษรหน้าบ้านไว้ว่า “

ประวัติหงส์ยักษ์วัดห้วยลึก

ประวัติหงส์ยักษ์วัดห้วยลึก วัดห้วยลึกตั้งอยู่ในหมู่บ้านห้วยลึก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เริ่มตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2523 เดิมทีที่วัดแห่งนี้เป็นสำนักสงฆ์ ที่ชื่อว่า “สำนักสงฆ์ห้วยหงษ์ ” ต่อมานายคำนึง ห้วยหงส์ทอง ได้ขอทำเรื่องสร้างวัด ปัจจุบันนี้มี มีเจ้าอาวาส คือ พระปลัดเดชา ญาณวโร บริหารและปกครองที่วัดแห่งนี้ ป้ายวัดห้วยลึก โดยที่วัดแห่งนี้ยังมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ และศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของวัดห้วยลึกก็คือ หงส์ทองยักษ์ ตั้งอยู่ตรงซุ้มประตูวัด ที่หากใครเดินทางไปภาตใต้จะต้องผ่านถนนเพชรเกษม และจะต้องเห็นเจ้าหงส์ทองยักษ์นี้ ที่มาของ หงส์ยักษ์วัดห้วยลึก สำหรับประวัติ หงส์ยักษ์วัดห้วยลึก หลายคนคงอยากจะรู้ที่มาที่ไปของเจ้าหงส์ยักษ์ตัวนี้แล้วว่าทำไมถึงมาตั้งอยู่ที่หน้าประตูวัดได้ หงส์ยักษ์นี้ถูกสร้างขึ้นโดย ‘พระครูไพศาล’ อดีตเจ้าอาวาสของวัด จุดประสงค์ที่ท่านสร้างขึ้นก็เพื่อที่จะให้เป็นจุดรองรับเทพเทวดาที่ท่านจะพากันแวะเวียนมาร่วมอนุโมทนาบุญบุญ รวมถึงการสวดมนต์ฟังเทศน์ฟังธรรมด้วย หน้าวัดห้วยลึก เจ้าหงส์ยักษ์นี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 251

ผีลึกลับสเลนเดอร์แมน

ผีลึกลับสเลนเดอร์แมน สเลนเดอร์แมน นั้นมักจะปรากฎตัวออกมาในรูปลักษณ์ของผู้ชาย ที่ดูแล้วมีลักษณะสูงเกินคนปกติทั่วไป แขนและขาของสเลนเดอร์แมนนั้นนับรวมกันแล้วจะมีตั้งแต่ 4 ถึง 8 ข้าง และแต่ละข้างก็จะมีสีดำราวกับว่ามันงอกออกมาจากกลางหลัง และยังมีภาพถ่ายจำนวนมากที่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และได้มีคนสันนิษฐานอีกด้วยว่า สเลนเดอร์แมนนั้นสามารถติดต่อกับสัตว์ประหลาดปลาหมึกยักษ์หรือแทนทาเคิลได้ด้วย  สเลนเดอร์แมน มักจะอยู่ในรูปลักษณ์ของชายที่สวมเสื้อสูทสีดำดูโดดเด่นคล้าย ๆ กับกลุ่มชายชุดดำหรือเมนอินแบล็ค และที่เข้ากับชื่อสเลนเดอร์แมนของมันนั้น ก็คือลักษณ์ของแขนขาและลำตัวที่ยืดยาวผิดมนุษย์ เอาไว้หลอกให้เหยื่อหวาดกลัว ซึ่งเมื่อมันยืดแขนออกมา เหยื่อของมันก็จะถูกสะกดจิตเข้าให้สู่ภวังค์ จนไม่สามารถที่จะบังคับตัวเองให้หลุดออกมาจากมนต์สะกด ที่จะทำให้พวกเขาต้องเดินไปหามันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สเลนเดอร์แมนก็ยังสามารถแผ่มือและขาอันมากมายเหมือนกิ่งก้านของไม้ ไว้ใช้ในการเดินคล้าย ๆ กับด็อกเตอร์อ็อกโตปุส จากภาพยนต์เรื่องสไปเดอร์แมน และมันก็มีความสามารถยืดหยุ่นได้ คล้ายคลึงกับมิสเตอร์แฟนแ

ตำนานเรื่องเล่าผีจ้างหนัง

ตำนานเรื่องเล่าผีจ้างหนัง ตำนานผีจ้างหนัง ในวันที่มีเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 29 ของเดือน มกราคม พุทธศักราช 2532  นายธงชัย แสงชัย หรือ เฮียเบิ้ม เจ้าของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ได้รับการว่าจ้าง จากนายจำปา คำแก้ว ให้ไปฉายหนัง ในราคา 4,000 บาท โดยมัดจำเอาไว้ 500 บาท เมื่อเดินทางไปถึงก็มีคนมารอรับเพื่อนำทางต่อไปอีก พอถึงที่หมายจริง ปรากฏว่า ผู้ถูกจ้างพบแต่ความเงียบ ไม่มีพ่อค้าแม่ขาย หรืออะไรที่บ่งบอกถึงความครึกครื้น หลังเตรียมอุปกรณ์ฉายหนังเรียบร้อย เวลา 21.00 น. เริ่มฉายหนัง พนักงาน 7 คน ที่ไปสังเกตว่า มีกลุ่มผู้ชายใส่เสื้อสีดำคอจีน และกลุ่มหญิงสาวนุ่งขาวห่มขาว นั่งชมภาพยนตร์อยู่คนละฝั่ง รวม ๆ แล้วมีชาวบ้านเข้ามานั่งอยู่เยอะ โดยเรื่องที่ฉายทั้งหมด 4 เรื่อง เป็นเรื่องที่ทางผู้ว่าจ้างเลือกเองทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือ บ้านผีปอบ แต่น่าแปลกใจที่หนังตลก กลับไม่มีคนหัวเราะ ทุกคนนั่งนิ่งชมภาพยนตร์ด้วยความสงบ และไม่ลุกไปไหน เวลา 04.00 น. มีผู้ชายมาเคาะประตูข้างรถ เพื่อให้เงินที่เหลืออีก 3,500 บาทตามที่ตกลง พนักงานนับแล้วบอกว่า เงินที่จ่ายเป็นเงินจริงทุกบาททุกสตางค์ เมื่อรับเงินมา อีกฝั่งได้บอกกับเขาว่

พิธีไล่ผีสุดแปลก

พิธีไล่ผีสุดแปลก ถล่มผีด้วยปืนใหญ่  การ ‘บู๊’ กับผีในหนังหลายเรื่องมักต้องทำผ่านผู้เชี่ยวชาญคุณไสย์ มีดลงอาคม หรือน้ำมนต์พร้อมบทสวดหลายท่อน ทว่าสิ่งที่ ชารีฟ อับดูราฮิม สุลต่านคนแรกของเมืองปนตียานัก แห่งกาลีมันตันตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ตัดสินใจทำคือ การเอาปืนใหญ่มายิงต่อสู้เสียอย่างนั้น! ย้อนกลับไปในช่วง ค.ศ. 1771 บริเวณริมแม่น้ำสายสำคัญอย่างกาปูวัซ เป็นดินแดนที่สุลต่านชารีฟเข้าไปตั้งรกราก โดยบริเวณดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญทางภูมิศาสตร์การเมืองสูง เนื่องจากถูกใช้สำหรับขนส่งสินค้าภายในประเทศ รวมถึงการสร้างฐานที่มั่นสำหรับจัดการกลุ่มโจรสลัดที่มักออกปล้นตามแม่น้ำอยู่เนืองๆ แน่นอนว่าสุลต่านและกำลังคนมากมายที่แล่นเรือเข้ามาพร้อมรบกับโจรสลัดเต็มกำลัง แต่คิดไม่ถึงว่าศัตรูที่แท้จริงของบริเวณนี้คือผีร้ายจอมดูดเลือดที่ชื่อว่า ‘กุนตีลานัก’ ผีกุนตีลานัก ถูกบรรยายว่าเป็นผีผู้หญิงผมยาวในชุดสีขาว อาหารโปรดคือเลือดสดๆ ของผู้ชาย รวมไปถึงผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ตำนานระบุว่าผีชนิดนี้มักอาศัยอยู่ตามต้นไม้ ซึ่งทำให้บริเวณนี้เหมาะสมมากสำหรับการสิงสู่ เนื่องจากเต็มไปด้วยป่าและบึง จนแม้แต่คำว่า ‘Pontiana

ตุ๊กตาผี”Annabelle”

ตุ๊กตาผี “Annabelle” ตุ๊กตาผีสิงสุดหลอนชื่อ แอนนาเบลล์ ซึ่งกลายเป็นตัวละครผีที่ถูกพูดถึงในหนังสยองขวัญเรื่อง เดอะคอนเจอริ่ง The Conjuring ปีค.ศ. 2013 และ เดอะคอนเจอริ่ง The Conjuring 2 ปีค.ศ. 2016 รวมถึงทั้งภาคสาม เดอะคอนเจอริ่ง The Conjuring: The Devil Made Me Do It ที่มีการเลื่อนฉายไปเป็นปีหน้า ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ทำให้แตกหน่อออกมาเป็นหนังภาคแยก (Spin-off) ที่พูดถึงตุ๊กตาแอนนาเบลล์โดยเฉพาะ มีทั้งหมด 3 ภาคคือ Annabell ปีค.ศ. 2014, Annabelle: Creation ปีค.ศ. 2017 และ Annabelle Comes Home ปีค.ศ. 2019 หลายคนคงสงสัยว่าแอนนาเบลล์ตัวจริงมีที่มาที่ไปอย่างไร และมีฤทธิ์เดชน่ากลัวมากเหมือนกับในหนังหรือเปล่า   ตุ๊กตาแอนนาเบลล์ ตัวจริง ๆ นั่นไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนในหนัง แต่เป็นตุ๊กตาหน้าตาบ้องแบ๊วมีชื่อว่า Raggedy Ann ซึ่งเป็นตุ๊กตาผ้าดาด ๆ หรือ ที่ฝรั่งมักจะเรียกกันว่า Rag Doll มีผมสีแดงทำจากไหมพรม จมูกสามเหลี่ยมสีแดง สวมชุดสีขาวและถุงเท้าลาย โดยจากคำบอกเล่าของเอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน คู่สามีภรรยานักไล่ผีตัวจริง (ที่เป็นตัวละครเอกในหนัง The Conjuring) นั้นไม่ได้เหมือนกับในหนังที่