STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

ป่าหิมพานต์

ป่าหิมพานต์

ป่าหิมพานต์ ป่าหิมพานต์ เป็นชื่อของป่าที่เป็นตำนานโบราณ วรรณคดีไทยหลายเรื่อง ได้พูดถึงป่าหิมพานต์นี้ และได้พรรณาถึงลักษณะของป่านี้ในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบรรยายถึงภาพบรรยากาศของ ความปรำปรา ความลึกลับ เหนือธรรมชาติรเวลาพูดถึงเรื่องความมหัศจรรย์ต่างๆ ก็มักจะอ้างอิงเข้าไปในป่าหิมพานต์แห่งนี้ หลักฐานการกล่าวถึงป่าหิมมานต์นี้มีปรากฏเป็นหลักฐานในคัมภีย์เก่าแก่ คือ ไตรภูมิพระร่วง ซึ่งเป็นบันทึกเก่าแก่ที่สร้างในยุคสุโขทัย โดยไตรภูมิพระร่วงได้กล่าวถึงภพภูมิต่างๆ ที่เป็นสถานที่เวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์ และพูดถึง จักรวาล ตลอดจนพระนิพพานที่เป็นที่สิ้นสุดแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และในไตรภูมิพระร่วงนี้เองได้กล่าวถึง ป่าหิมพานต์นี้ด้วย โดยอธิบายว่า ป่าหิมพานต์ ตั้งอยู่ในชมพูทวีป ซึ่งเป็นหนึ่งในทวีปที่ใหญ่ โดยบนเขามีสระน้ำใหญ่ 7 สระ ในสมัยก่อน เมื่อครั้งนั้นโลกยังมีลักษณะแบนคล้ายหลังเต่า มีเสาค้ำจุนโลกในยุคนั้นตั้งชี้สูงขึ้นไปยังดวงอาทิตย์ พื้นโลกเต็มไปด้วยสรรพสัตว์นานาชนิด มีการเข่นฆ่ากันอย่างปกติ ไร้เมตตา ผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง และพื้นที่ส่วนใหญ่ยังปกครองด้วยป่า ซึ่งเรา

ป่าคำชะโนด

ป่าคำชะโนด

ป่าคำชะโนด ตำนานป่าคำชะโนด ทั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากการที่มีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิมในอดีต จึงทำให้พื้นที่ของเกาะซึ่งลอยน้ำอยู่นั้นมีความหนัก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องจมน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางปี พ.ศ. 2560 ถึงกับต้องปิดสถานที่แห่งนี้เป็นการชั่วคราว เกาะคำชะโนดดินแดนที่หลายคนเชื่อว่าทุกตารางนิ้วมีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านหลายชั่วอายุคนเชื่อกันว่าใต้คำชะโนดเป็นเมืองบาดาลมีพญานาค ชื่อ พญาศรีสุทโธนาค ปกครองอยู่ มีทางขึ้นลงเชื่อมระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ในดงคำชะโนด ซึ่งเรียกกันว่าบ่อน้ำ คำชะโนดมีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำ และ มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคโดยตรง มีเรื่องราวแปลกประหลาดมากมาย เป็นเรื่องโด่งดังมาแล้วทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นเปรตกู้และผีจ้างหนัง ชาวไทยพุทธของเราส่วนใหญ่ยังผูกพันอยู่กับความเชื่อต่างๆเพราะเมื่อเรามีความเชื่อแล้วย่อมมีความหวัง แต่จะหวังไปในด้านใดนั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล ห้ามกันไม่ได้ แม้กระทั่งสมัยพุทธกาลมีพระพุทธศาสนาที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเป็นประธานเป็นองค์เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยพระองค์เอง ขนาดนั้นยังมีลัทธิต่างๆที่เข้ามาเป็นคู่แข่ง

เสือสมิง

เสือสมิง

ตำนาน”เสือสมิง” ผีหรือปีศาจที่มีรูปร่างเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ อาละวาดกินคนเป็นอาหาร เชื่อว่า เสือสมิงเกิดจากเวทมนตร์คาถาทางไสยศาสตร์ หรือเป็นเสือที่กินคนเข้าไปมาก ๆ แล้ววิญญาณของคนที่ถูกกินไปสิงอยู่ในเสือตัวนั้นจนกลายเป็นเสือสมิง เสือสมิงโดยปกติจะมีร่างเป็นคน แต่สามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ในเวลากลางคืนและออกหาเหยื่อ เมื่อออกล่าเหยื่อจะแปลงร่างเป็นบุคคลต่างๆ นานา เพื่อล่อลวง เช่น แปลงเป็นลูกเมียของเหยื่อ หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นพระธุดงค์ก็มี ในระหว่างเสด็จประพาศต้นในปี พ.ศ. 2419 ที่ป่าจันทบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชนิพนธ์บันทึกถึงความเชื่อเรื่องเสือสมิงของผู้คนที่อาศัยในแถบนี้ ความตอนหนึ่งว่า ราษฎรชาวเมืองเชื่อถือกลัวเสือสมิงกันมาก เล่ากันว่าที่เมืองเขมรมีอาจารย์ทำน้ำมันเสือสมิงได้ ศิษย์ได้ลักน้ำมันนั้นทาตัวเข้า กลายเป็นเสือสมิงไปถึง ๓ คน พลัดเข้ามาในแขวงเมืองจันทบุรี ตัวหนึ่งเป็นเสือดุร้าย เที่ยวขบกัดคนตายที่พลิ้ว ๒ คน ที่ปากจั่น ๑ คน ที่ป่าสีเซ็น ๒ คน รวม ๕ คน อาจารย์เที่ยวตาม ได้บอกชาวบ้านว่าศิษย์สามคนลักน้ำมันเสือสมิงทาตัวเข้า กลายเป็นเสือไปทั้งสาม

มนุษย์หมาป่า”Werewolf”

มนุษย์หมาป่า

มนุษย์หมาป่า”Werewolf” มนุษย์หมาป่า เป็นผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์และมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง อาจจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทั้งตัวเลยก็ได้ หรือครึ่งคนครึ่งหมาป่า หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น เช่น หมี เป็นต้น โดยที่วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้าย ๆ กับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่ม หรือเผา ที่เห็นบ่อยโดยเฉพาะในภาพยนตร์ก็คือ การยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงินหรือกระสุนผ่านการปลุกเสก มนุษย์หมาป่าก็แพ้แสงแดด[ต้องการแหล่งอ้างอิง] และถูกตามล่าเหมือนกับแวมไพร์ เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่านั้น มีที่มาจากความกลัวหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าที่พบในยุโรป ที่มีลำตัวขนาดใหญ่ และมักออกล่าเป็นฝูง โดยอาจดักซุ่มโจมตีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางคืน ผนวกกับความเชื่อและความหวาดกลัวบุคคลนอกสังคม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ อย่างแม่มดหรือแวมไพร์ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เรื่องมนุษย์หมาป่านั้น แท้จริงแล้วคือ สัญชาตญาณสัตว

ตำนาน”กินรี”

ตำนาน

ตำนาน”กินรี” ขณะเดียวกัน คนที่ชื่นชอบเครื่องรางมหาเสน่ห์ ที่ว่าด้วยตัณหาและกามารมณ์ล้วนๆ ก็จะเห็นเครื่องรางที่เกี่ยวข้องกับกินรี ที่บางสำนักนำมาเผยแพร่ในวงการวัตถุมงคลด้วยเช่นกันซึ่งเมื่อพูดถึงป่านี้ เราต้องลืม “ภาพ” ของป่าหิมพานต์ในวรรณคดี หรือตามจิตรกรรมฝาผนังในวัดออกไปเสียก่อนนะครับ เพราะป่าหิมพานต์ในความเป็นจริง ก็ไม่ได้แตกต่างกับป่าไม้ทั่วไปในโลกของเราหรอกครับ และที่จริงก็ซ้อนทับอยู่ในป่าดงดิบต่างๆ ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วนั่นเอง เพียงแต่ว่าอยู่ในอีกมิติหนึ่ง ที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถจะผ่านเข้าไปได้ ซึ่งอมนุษย์เหล่านี้ก็คือ สิ่งมีชีวิตที่มีทั้งกายหยาบและกายละเอียด มีวิญญาณ ต้องกิน ต้องนอนและสืบพันธุ์ มีการเกิดแก่เจ็บตายเหมือนมนุษย์เราทุกประการ อมนุษย์จำพวกนี้ มีวิชาอาคมเฉพาะของเผ่าพันธุ์ ในการประดิษฐ์เครื่องมือที่ใช้ในการบิน คือ ปีก ซึ่งเมื่อนำมาสวมใส่แล้วก็จะบินได้ตามต้องการ เมื่อไม่ใช้ก็ถอดเก็บและถ้าไม่มีปีก จะไปไหนก็ต้องเดินไปเหมือนคนเราดังปรากฏในนิทานพื้นบ้าน เรื่อง พระสุธนมโนห์รา ซึ่งที่จริงมิได้มีเฉพาะในเมืองไทย แต่เล่าขานกันในทุกอารยธรรมที่อยู่ชายฝั่งมหาสมุทรแ

เสาหลักผี

เสาหลักผี

เสาหลักผี เสาหลักเมือง เรื่องสืบกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีความเชื่อตามประเพณีว่า เมื่อมีการสร้างพระนครหรือสร้างเมือง จะต้องมีเสาหลักเมือง โดยในพิธีนั้น จะมีการฝังเสาหลักเมือง และเสามหาปราสาท โดยจะต้องเอาคนที่มีชีวิตทั้งเป็นลงฝังในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้ามหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรู มิให้มีโรคภัยเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง ในการทำพิธีดังกล่าว ต้องเอาคนที่ชื่อ อิน จัน มั่น คง มาฝังลงหลุมจึงจะศักดิ์สิทธิ์ เล่ากันว่าการจะหาผู้ที่มาฝังลงหลุมนั้น ผู้กระทำพิธีจะออกเดินไปตามย่านต่างๆ เรียกชื่อ อิน จัน มั่น คง ไปเรื่อยๆ ใครโชคร้ายขานรับขึ้นมาก็จะถูกนำตัวไปเลี้ยงดูอย่างดี อิ่มหนำสำราญโดยไม่บอกอนาคตล่วงหน้า พอถึงวันกำหนดที่จะกระทำการอันทารุณนี้ โดยการแห่นำไปแล้วผลักลงหลุมเพื่อทำพิธี เมื่อคนมาชุมนุมกันเขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่น ลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้ายผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคถือลางนั้น บี้แบนอยู่ในหลุม คนไทยเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้จะกลายสภาพเป็นอารักษ์ คนสามัญบางคนก็กระทำการฆาตกรรมแก่ทาสของตนในทำนองเดียวกันนี้เพื่อใช้ให้เป็นผีเฝ้าขุมทรัพย์ที่ตนฝั

เปิดตำนานตุ๊กตาดารุมะ

เปิดตำนานตุ๊กตาดารุมะ

เปิดตำนานตุ๊กตาดารุมะ  ช่วงปีใหม่นี้ถ้าใครได้ไปญี่ปุ่นแล้วอยากซื้อของฝากกลับเมืองไทย ของฝากยอดฮิตของญี่ปุ่น คือ ตุ๊กตาดารุมะ รับรองว่าจะเป็นของฝากแบบเก๋ๆ ไม่ซ้ำใครแน่นอน หลายคนอาจสงสัยว่าตุ๊กตาดารุมะมีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงเป็นตุ๊กตายอดฮิตของญี่ปุ่น ผู้ที่เป็นสังฆปรินายกองค์ที่ 28 ตุ๊กตาดารุมะเป็นตุ๊กตาไม้ มีลักษณะกลมไม่มีแขนและขาจะมีลักษณะคล้ายกับตุ๊กตาล้มลุก โดยส่วนมากตุ๊กตาดารุมะจะมีสีแดงและสีอื่นๆมากมาย เช่น สีเหลือง สีฟ้า สีทอง เป็นต้น โดยบริเวณคางของตุ๊กตาดารุมะนั้นจะมีการเขียนคำอวยพรเอาไว้ด้วย ตรงบริเวณขนคิ้วของตุ๊กตาดารุมะนั้นเปรียบเสมือน นกกระเรียน ส่วนหนวดเคราของตุ๊กตาดารุมะนั้นก็คือเต่า ซึ่งในความหมายของ นกกระเรียนและเต่า ก็คือ การมีชีวิตที่ยืนยาว เราจะสังเกตได้จากการพับนกกระเรียน เพื่อขอให้มีอายุที่ยืนยาว และเต่าที่เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ ที่มีอายุยืนยาว นั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ตุ๊กตาดารุมะส่วนใหญ่ถูกทาสีด้วยสีแดงนั้น มีความหมายคือ ในสมัยก่อนนั้น พระโพธิธรรมทรงสวมจีวรที่มีสีแดง จึงทาสีตัวดารุมะให้เป็นสีแดง อีกทั้งสีแดงยังเป็นสีที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่า สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ และโ

ตำนานไซเรน”Siren”

ตำนานไซเรน

ตำนานไซเรน”Siren” ถ้าไปถามนักท่องเที่ยวมือใหม่สมัยนี้ว่ากลัวอะไรกัน เราคงได้คำตอบหลากหลายกันไป ทั้งกลัวหลงทาง กลัวพาสปอร์ตหาย กลัวงบที่เตรียมไปไม่พอ ฯลฯ แต่รู้มั้ยครับว่าเมื่อก่อนนั้นเขากลัวสิ่งที่เรียกว่า ไซเรน กันมากกว่า สัตว์ประหลาดที่คอยหลอกล่อนักเดินทางด้วยเสียงเพลงนี้จะเป็นยังไง ไปติดตามกันได้เลยครับ ตำนาน ที่มาของไซเรน ตามตำนานนั้น ไซเรนเป็นอมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวย เป็นสาวงามแต่ว่ามีขาเป็นครีบปลาคล้ายนางเงือก แต่พออยู่บนบกก็จะมีปีกบินได้ ทั้งนี้ลักษณะทั่วไปของไซเรนจะแตกต่างกันไปในแต่ล่ะตำนาน บางที่ก็ว่าเป็นนกที่มีหัวเป็นผู้หญิงไปเลยก็มี ด้านความสามารถหลักๆ อันขึ้นชื่อลือชาของไซเรนก็คือการสะกดจิตผู้คนให้ทำตามคำสั่งของตัวเอง ด้วยบทเพลง และเสียงอันไพเราะ เมื่อก่อนเชื่อกันว่าบรรดานักเดินเรือพอได้ยินเสียงของไซเรน ต่างก็ตกอยู่ในภาวะไร้สติ บังคับเรือไม่ได้ ชนหินโสโครกจนจมน้ำ และถูกนำไปเป็นอาหารในที่สุด    ต้นกำเนิดของไซเรนมีบิดาเป็นเทพประจำแม่น้ำ อเคโลอัส ส่วนมารดาคือ 1 ในเทพธิดามิวส์ ซึ่งไม่ปรากฎข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นองค์ไหน เพราะมิวส์นั้นมีถึง 9 นางด้วยกัน จากนางฟ้าสู

ตำนานการ์กอย”Gargoyle”

ตำนานการ์กอย

ตำนานการ์กอย”Gargoyle” หากเราได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวตามโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ โดยเฉพาะในต่างประเทศนั่น เรามักจะได้เห็นกับรูปปั้นหรือรูปสลักของสัตว์ประหลาดที่เกาะอยู่ตามส่วนต่างๆของโบสถ์วิหาร พร้อมกับชื่อที่คุ้นหูที่เราเรียกมันว่าการ์กอยล์นั่นเอง ถ้าจะบอกว่าการ์กอยล์นั้นเป็นชื่อของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งก็จะแปลกอะไรเท่าไรนัก แต่ผมจะขอพูดถึงความหมายของชื่อการ์กอยล์ในอีกด้านก่อนนะครับ แล้วเราจะกลับมาเข้าตำนานของมันกัน เอาจริงๆแล้วคำว่าการ์กอยล์หรืออีกชื่อคือปนาลี(มีสองชื่อ) เป็นคำศัพท์ทางสถาปัตยกรรมที่เอาไว้ใช้เรียกหินที่สลักเป็นรูปอัปลักษณ์ และยื่นออกมาจากอาคาร เพื่อใช้เป็นที่ระบายน้ำจากหลังคาไม่ให้ไปโดนตัวอาคารครับ และถ้าทางผู้อ่านสงสัยต่อไปอีกว่า “แล้วถ้าเป็นรูปสลักสัตว์ประหลาดเหมือนกัน อยู่ตามโบสถ์และอาคารเหมือนกัน แต่ไม่ได้ใช้ระบายน้ำ มีไว้แค่ตกแต่งอาคารเฉยๆล่ะ ตัวพวกนั้นเรียกการ์กอยล์หรือเปล่า” คำตอบก็คือ ถ้าในทางสถาปัตยกรรมจะไม่ได้เรียกว่าการ์กอยล์ครับ จะใช้คำว่า “รูปอัปลักษณ์” แทน แต่ในทางปฏิบัติจริงแล้ว คนทั่วไปเขาก็เรียกรวมๆกันไปเลยว่าการ์กอยล

ม้าน้ำปีศาจ”Kelpie”

ม้าน้ำปีศาจ

ม้าน้ำปีศาจ”Kelpie” ปีศาจจำพวกพรายน้ำในนิทานพื้นบ้านของสกอตแลนด์ มีลักษณะเป็นม้าสีขาวหรือกึ่งคนกึ่งม้า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเซนทอร์, ลิมนาเดส และสคิลลา ในเทพปกรณัมกรีก และม้าบ้อง สิงสถิตย์อยู่ยังแม่น้ำ, ทะเลสาบหรือ หนองน้ำ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ เคลพี ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น นักเกิล ชูพิลที โยเกิล ลักษณะผิวจะเรียบแต่เย็นเหมือนผิวคนตายหากได้สัมผัส เคลพี จะล่อลวงคนที่หยุดพักที่ริมน้ำที่มันอาศัยอยู่ ขณะที่หยุดพักดื่มน้ำ มันจะปรากฏตัวเป็นม้าสีขาวที่สงบเสงี่ยม แต่เมื่อขึ้นขี่หลังมัน มันจะพาดำดิ่งสู่ก้นน้ำทันที จนบุคคลนั้นจมน้ำตาย ซึ่งเคลพีจะกินซากศพจนเหลือเพียงหัวใจหรือตับไว้ บางครั้ง นอกจาก Kelpie จะแปลงเป็นม้าได้แล้ว มันยังสามารถแปลงเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีหรือหญิงสาวหน้าตาดีแสนสวยเพื่อหลอกล่อเหยื่อให้มาติดกับได้ด้วย มีเรื่องของเคลพีที่แปลงร่างเป็นมนุษย์เพื่อแต่งงานกับหญิงสาว ก็มี ส่วนวิธีดูว่าเป็น Kelpie แปลงมาหรือไม่ ให้ดูที่หัว หากบนหัวมีสาหร่ายปกคลุมอยู่ นั่นก็หมายความว่าเป็น Kelpie แน่นอน แต่วิธีนี้ ใช้ดูได้เฉพาะเวลาที่ Kelpie แปลงเป็นผู้ชายเท่านั้น ส่วนถ้าแ