แม่ชีไร้หัว
แม่ชีไร้หัว บนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกของเมืองที่ถูกลืม เรื่องราวอันน่าสยดสยองสะท้อนผ่านยุคสมัย—ตำนานของแม่ชีหัวขาด มันพูดถึงร่างที่น่าสลดใจซึ่งถูกประณามให้ท่องไปในโลกมนุษย์ แสวงหาการล้างแค้นสำหรับการกระทำอันชั่วร้ายที่พรากเธอจากร่างมนุษย์ของเธอ เมื่อหลายศตวรรษก่อน ในคอนแวนต์ที่เงียบสงบ ซิสเตอร์มาร์กาเร็ตสาวผู้ไร้เดียงสาใช้ชีวิตอุทิศแด่พระผู้เป็นเจ้า แต่ความมืดปกคลุมคอนแวนต์เมื่อมีสิ่งชั่วร้ายแทรกซึมเข้าไปในกำแพงศักดิ์สิทธิ์ พลังชั่วร้าย กระหายอำนาจและการควบคุม ได้หยั่งราก ทำลายวิญญาณของผู้ศรัทธา คืนหนึ่งเป็นเวรเป็นกรรม แผนการชั่วร้ายถึงจุดสุดยอด ซิสเตอร์มาร์กาเร็ต สัญญาณแห่งความบริสุทธิ์ ถูกกล่าวหาว่านอกรีตและถูกประณามชะตากรรมอันน่าสยดสยอง ศีรษะของเธอขาดออกจากร่างกาย การกระทำอันน่าสยดสยองได้ผนึกชะตากรรมอันน่าเศร้าของเธอไว้ เมื่อร่างของเธอดับลง วิญญาณของซิสเตอร์มาร์กาเร็ตยังคงอยู่ ความเจ็บปวดและความโกรธของเธอดังก้องไปทั่วห้องโถงของคอนแวนต์ เธอกลายเป็นแม่ชีหัวขาด ร่างเงาที่สวมชุดคลุมสีขาวขาดรุ่งริ่ง คอที่ว่างเปล่าของเธอมีเงาดำไหลซึม การล้างแค้นของแม่ชีหัวขาดไม่มีขอบเขต ผู้ที่ข้ามเส้นทา
The Turn Of The Screw
The Turn Of The Screw ในชนบทอันเงียบสงบของอังกฤษ คฤหาสน์ Bly อันโอ่อ่าตั้งตระหง่านอยู่ ที่นี่จ้างผู้ปกครองสาวผู้ไร้เดียงสามาดูแลเด็กกำพร้าสองคน ฟลอราและไมล์ส ลุงของพวกเขาซึ่งมีงานยุ่งในลอนดอน มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือ เขาต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาใดๆ เกี่ยวกับเด็กๆ ผู้ปกครองถูกเสน่ห์ของเด็ก ๆ มองว่าพวกเขาเป็นนางฟ้า แต่ภาพลวงตาของชีวิตในชนบทอันเงียบสงบนี้เริ่มแตกสลายเมื่อเธอได้รับจดหมายจากโรงเรียนของไมลส์ ไล่เขาออกด้วยเหตุผลที่อธิบายไม่ได้ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เธอเริ่มเห็นร่างของชายหญิงรอบๆ ที่ดินซึ่งไม่ได้อยู่ในหมู่พนักงาน เพื่อแสวงหาคำตอบ แม่ครัวจึงปรึกษากับนาง Grose ผู้ดูแลบ้าน อธิบายถึงการประจักษ์ จากคำอธิบายของคุณนาง Grose ระบุว่าพวกเขาคือ Peter Quint อดีตคนรับใช้ของลุง และ Miss Jessel แม่นมคนก่อน ทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว สำนึกอันเยือกเย็นมาสู่ผู้ปกครองหญิง ควินท์และเจสเซลมีความสัมพันธ์ที่อื้อฉาว และผู้ปกครองเริ่มเชื่อมั่นว่าพวกเขากลับมาทำให้วิญญาณบริสุทธิ์ของเด็กๆ เสื่อมเสีย ด้วยความสยดสยองของเธอ เธอตระหนักว่าเด็กๆ ไม่เพียงรับรู้ถึงภูติผีเท่านั้น แต่ยังมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาด้วย ด้
ผีกรีนเบรียร์
ผีกรีนเบรียร์ ในส่วนลึกของภูเขาเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในโพรงที่ปกคลุมด้วยหมอก เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏขึ้น ตำนานของ Greenbrier Ghost มันพูดถึงวิญญาณที่ไม่สงบและมุ่งมั่นที่จะเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการตายก่อนวัยอันควรของเธอ เรื่องราวเริ่มต้นจากหญิงสาวชื่อโซน่า ฮีสเตอร์ ซึ่งชีวิตพลิกผันอย่างน่าเศร้าเมื่อเธอตกหลุมรักชายคนหนึ่งชื่อเอ็ดเวิร์ด โซนาได้รับคำเตือนจากครอบครัวของเธอเกี่ยวกับนิสัยด้านมืดของเอ็ดเวิร์ด แต่เธอปัดเป่าความกังวลของพวกเขา และถูกบดบังด้วยความรักที่เธอมีต่อเขา หลายเดือนผ่านไป ครอบครัวของ Zona เฝ้าดูด้วยความสยดสยองเมื่อสุขภาพของเธอทรุดโทรมลง พวกเขาเริ่มสงสัยโดยเชื่อว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นสาเหตุของความทุกข์ทรมานของเธอ ความกลัวของพวกเขากลายเป็นความสิ้นหวังเมื่อพบว่า Zona ไร้ชีวิตชีวาในบ้านของพวกเขา ร่างกายของเธอแข็งทื่อและเย็นชา แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่แมรี่ เจน แม่ของโซน่าก็เก็บงำสัญชาตญาณลึกๆ ว่าการตายของลูกสาวไม่ใช่อุบัติเหตุ ด้วยความผิดหวังและหมดหวังในความยุติธรรม แมรี่ เจนหันไปหาสิ่งเหนือธรรมชาติเพื่อหาคำตอบ ในพิธีกรรมอันมืดมิดและต้องห้าม แมรี่ เจนติดต่อ
White Lady
White Lady ในใจกลางเมืองเล็กๆ ที่งดงามราวกับภาพวาด ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าโบราณและซากปรักหักพังที่พังทลาย มีตำนานเล่าขานกันในหมู่ชาวบ้าน นั่นคือเรื่องเล่าของสตรีขาว เธอถูกกล่าวว่าเป็นวิญญาณพยาบาท สิงสู่ในแผ่นดินและแสวงหาการแก้แค้นสำหรับอดีตอันดำมืดและน่าสลดใจ สตรีชุดขาวซึ่งสวมชุดสีขาวพลิ้วไหวและความงามอันบริสุทธิ์ของเธอ ท่องไปในคืนเดือนหงาย การปรากฏตัวของเธอเปล่งประกายความเยือกเย็นจากโลกภายนอก ว่ากันว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความรัก จนกระทั่งการทรยศที่ชั่วร้ายได้ฉีกโลกของเธอเป็นชิ้นๆ เมื่อหลายศตวรรษก่อน White Lady เป็นที่รู้จักในชื่อ Lady Genevieve ซึ่งเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่แต่งงานกับลอร์ดผู้มั่งคั่ง แต่หลังปิดประตู สามีของเธอเก็บงำความลับที่น่ากลัวไว้—ความกระหายในอำนาจที่ไม่มีขอบเขต ในการแสวงหาการครอบครอง เขาได้สังเวย Lady Genevieve วางยาพิษและโยนร่างไร้ชีวิตของเธอลงในทะเลสาบที่อยู่ใกล้เคียง แต่ความตายไม่ได้ทำให้ดวงวิญญาณที่ทรมานของเลดี้เจเนวีฟสงบลง เธอกลับผุดขึ้นมาจากส่วนลึก โกรธแค้นและกระหายที่จะล้างแค้น สวมชุดสีขาวพริ้วไหว เธอกลายเป็น White Lady หลอกหลอนทั้ง
ตำนานผีสาวโรคุโรคุบิ
ตำนานผีสาวโรคุโรคุบิ เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้เห็นตลอดไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็ตาม หากเป็นคนไทยเราก็อย่างเช่น แม่นาคพระโขนงเป็นต้น ประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีตำนานเรื่องราวความลี้ลับ ความเชื่อ ภูตผี มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ตำนานผีสาวคอยาวที่ชื่อว่า โรคุโรคุบิ ตำนานเรื่องนี้เป็นอย่างไร เราจะมาเล่าให้ฟังแล้วอย่าหลอนล่ะ โรคุโรคุบิ คือ หมายถึง ผีสาวคอยาวชนิดหนึ่ง ตัวเธอนั้นจะมีภูตผีที่มีนิสัยแปลกอย่างหนึ่ง ตอนกลางวันเธอจะอาศัยแนบเนียนไปกับผู้คนแบบไม่รู้ตัว บางครั้งเธอก็ปลอมตัวเป็นสาวใช้ในบ้านของเศรษฐี บางทีเธอก็ปลอมตัวเป็นชาวนา เป็นแม่ค้า ซึ่งเธอจะเป็นคนสวยมากจึงทำให้ไม่มีใครสังเกตมากนัก แต่พอตกกลางคืนเธอจะถอดหัวออกมากลายเป็นผีสาวคอยาว เพื่อออกไปหาเหยื่อ ผู้โชคร้ายที่เจอเธอจะโดนดูดวิญญาณจนร่างกายเสียชีวิตไป เธอมักจะเลือกเหยื่อเป็นผู้ชายร่างกายแข็งแรงไว้ก่อนเพราะว่าพลังงาน พลังชีวิตเยอะ พอตอนเช้าเธอก็จะกลับคืนสู่ร่างเดิมกลายเป็นหญิงสาวที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นอะไร โรคุโรคุบิ เป็นภูตผีปีศาจที่มีตำนานเล่าเยอะมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเธอมักจะหนีจากการถูกจับกุมได้ทัน จากนั้นก็กบดานแ
อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก
อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก ชื่อของบ้านเดิมนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เพราะหมายถึงนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือพระนารายณ์หลับ ณ เกษียรสมุทร (ทะเลนม) บนหลังอนันตนาคราช ในความเชื่อตามลัทธิเทวราชนั้น กษัตริย์คือพระนารายณ์อวตารมาเกิด และบ้านหลังนี้ได้รับชื่อนี้เพราะกษัตริย์ทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ มีประติมากรรม “นารายณ์บรรทมสินธุ์” บริเวณด้านหน้าบ้าน สร้างพระราชทานให้คนสนิทเล่าลือกันว่าบ้านนี้ผีดุ ลือกันมานานแล้ว เจ้าหน้าที่ที่มาหน้าที่ดูแลรักษา ก็เล่าลือกันนักหนาว่า หากทำอะไรเหมือนการไม่เคารพสถานที่ เป็นเจอดีกันทุกราย บางคนได้ยินเสียงม้าร้องในตอนดึกๆ บางคนเห็นผู้หญิงในชุดสไบเดินไปเดินมา และในเขตบ้านยังมีศาลท้าวหิรัญฮู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สร้างบ้านหลังนี้ อาถรรพท้าวหิรัญฮูนั้นมีเล่ากันมากมาย ปัจจุบันศาลของท่านที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังมีผู้ไปกราบไหว้ขอพรอยู่เสมอๆ อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพครับ (ที่เรียกว่าบ้านพิษณุโลก เพราะตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก) บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรร
เรื่องเล่า โรงแรมหลอน
โรงแรมหลอน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2556 เรื่องมีอยู่ว่าเนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 คุณแม่และออฟฟิศต้องไปจัดบูทและเข้าร่วมประชุม แต่ ออฟฟิศแม่ก็นัดให้ไปร่วมงานในวันที่ 13 สิงหาคม ครับ เราก็เลยเลือกเดินทาง วันที่ 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า ผมกับพี่สาวตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้ไปเป็นเพื่อน 12 ชั่วโมงจากขอนแก่นไปกรุงเทพด้วยรถตู้ลำบากมาก ทางเข้ากทม.รถติด การจราจรเป็นอัมพาตประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัด โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วให้รีวิวดี. มีคนจองไปแล้วหลายดวง แต่พอไปถึงบ้านนาประมาณ 4 โมงเย็น ราว 23.00 น. ฝนตกหนัก ถนนถูกน้ำท่วมมองไม่เห็นทางอีกต่อไป ไม่สามารถไปที่โรงแรมที่ฉันจองไว้ เนื่องจากฝนตกหนักเราจึงตัดสินใจหาโรงแรมใกล้ไบเทค ตื่นเช้าจะได้ไปได้สะดวก รถไม่ติดเท่าไหร่ ป้าที่ทำงาน แม่ และคนขับรถ) ขณะขับรถไปรอบ ๆ โรงแรม โรงแรมแล้วโรงแรมเล่าในที่สุด…เราก็พบโรงแรมที่มีปัญหา…เมื่อคนขับเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม เราพบรถที่เปลี่ยวมากจอดอยู่ที่เคาน์เตอร์หน้าโรงแรม แม่กับป้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ถามว่ามีห้องว่างไ
ตำนานผีแม่ม่าย
ตำนานผีแม่ม่าย เรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานผีแม่หม้าย คนในสมัยโบราณว่ากันว่า หากมีหมู่บ้านใดที่มีผู้ชายตายต่อกันหลายๆคน แสดงว่าหมู่บ้านนั้นมีผีแม่หม้ายออกอาละวาด ความเชื่อเรื่องลึกลับพวกนี้เกิดขึ้นที่ภาคอีสานแถวชนบทเป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่าหากมีผีแม้หม้าออกอาละวาด จะต้องหาทางแก้ไข้มิให้ผีแม่หม้ายออกมาตามเอาชีวิตผู้ชาย ผีแม่ม่ายคือผีที่ ไม่มีสามี หรือในภาษาอีสานเรียกกันว่า(ผีแม่ฮ้าง) ผีแม่หม้ายนั้นเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีสามี เมื่อตายไปแล้ว จะมีความต้องการมากกว่าตอนที่มีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นผีแม่หม้าก็จะมีพลังจิตที่แรงกล้า และสามารถที่จะไปเข้าฝันผู้ชายที่หมายปองได้ตามต้องการ ตามคำเล่าขานที่ว่ากันมาเชื่อกันว่า หากผีแม่หม้ายได้สิ่งที่หวังจากผู้ชายที่นางพาตัวไปแบบเต็มอิ่มแล้วนางก็จะไม่มาปรากฏตัวอีก และความเชื่ออีกอย่างของผีแม่หม้ายก็คือ เป็นหญิงที่มีความต้องการและชอบเป็นชู้กับผู้ชายไปทั่วไม่เลือก ไม่ว่าจะเป็นคนมีภรรยาอยู่แล้ว หรือมีคู่ครองอยู่แล้ว และเป็นหญิงที่ทำให้ครอบครัวชาวบ้านแตกแยก ชอบพรากลูกพรากผัวผู้อื่น และเมื่อตายไปแล้วก็จะกลายเป็นผีแม่หม้ายเช่นกัน บางที่ก็เชื่อกันว่าผีแม่หม้ายเป็
ผีสาวลาซาโยนา
ผีสาว ลา ซาโยนา (La Sayona) นั้นเป็นหนึ่งในตำนานที่เป็นเกี่ยวกับวิญญาณสยองขวัญที่เป็นเพศหญิงที่อยู่มาจากตำนานโบราณเก่าแก่ที่มาจากประเทศเวเนซุเอลา เราสามารถพูดได้ว่าตำนานของ ลา ซาโยนา นั้นเป็นดั่งตัวแทนของจิตวิญญาณพยาบาทของผู้หญิงที่มีความชั่วร้ายและเป็นวิญญาณที่คิดในทางด้านลบต่อผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ ลา ซาโยนา นั้นเป็นวิญญาณที่จะปรากฏตัวต่อหน้าผู้ชายเท่านั้น ซึ่งต้องเป็นผู้ชายที่มีเรื่องเกี่ยวกับรัก ๆ ใคร่ ๆ หลังจากการแต่งงานของพวกเขา ชื่อ “Sayona” หมายถึงผ้าที่ผีสวมซึ่งเป็นชุดยาวสีขาวคล้ายกับชุดชั้นในในยุคกลาง วิญญาณหญิงสาวที่เกลียดผู้ชายทุกคน โดยเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของ ลา ซาโยนา นั้นมีการเล่ากันไว้ว่า ลา ซาโยนา นั้นการปรากฏตัวของเธอนั้น เธอจะมาในรูปแบบของผู้หญิงที่จะปรากฏตัวขึ้นมาให้กับผู้ชายให้ได้เห็นกัน และหลังจากนั้นเธอก็จะขอบุหรี่จากผู้ชายเหล่านั้น หรือในบางครั้งเธอก็จะโผล่ออกมาจากทางข้างทางหรือข้างถนนและจะขอความช่วยเหลือในการที่จะขอติดรถนั่งไปด้วยกับพวกผู้ชายเหล่านั้น ในบางครั้งก็จะไม่มีกล้าที่จะรับเธอหรือเข้าหาเธอด้วยซ้ำเพราะเธอนั้นก็มีลักษณะที่ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่หากผู้
หมู่บ้านบัวสีเงิน
หมู่บ้านบัวสีเงิน บ้านที่ถูกฆ่าตายทั้งครอบครัว บัวสีเงินเป็นชื่อของหมู่บ้านที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกัน เค้าเล่ากันมาว่าเฮี้ยนมากเลยนะและกลุ่มของผมได้เข้าไปท้าพิสูจน์จนเจอดีเข้า มาเริ่มเรื่องกันเลย เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนๆประมาณ6-8คนได้ไปนั่งกินเหล้ากัน ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกพิเริ่มกินก็เริ่มเมากันละคับคราวนี้ผมเลยเป็นคนพุดเรื่องผีเป็นคนแรกเล่าไปไม่นานเพื่อนผมอีกคนหนึ่งก้ได้แย้งขึ้นมาว่าเล่าไปก้เท่านั้นแหละไม่ค่อยมันสู้ไปลองจริงไม่ได้มันก้เลยบอกว่าเอ้างี้ ไปลองดีที่บ้านร้างกันมั้ย ได้ยินว่าที่นั้นเฮี้ยนมากและมีคนไปลองของกันเยอะและเจอเรื่องของดีกันเลยบอกว่าไปก้ได้ว่ะแต่เพื่อนที่เหลือไม่มีใครกล้าผมก็เลยใช้ไม้ตายใครไม่ไปกูไม่เลี้ยงมันก็ตกลงไปกัน พอเรามาถึงทางเข้าบ้านบัวสีเงินผมก็ได้ตกลงมาแต่ไม่หนักมากพวกเราสู้จนถึงบ้านหลังนั้น คราวนี้ก็ได้ตกลงกันว่าใครจะเข้าไปบ้างไม่มีใครกล้าครับมีผมกับเพื่อนอีก 2 คนเท่านั้นรวมกันเป็น3 คราวนี้สิคับผมก้ได้เริ่มแหวกหญ้าเพื่อจะเข้าไปสู่ตัวบ้านข้างในหญ้ารกสูงท่วมหัวเลยเป็นบ้านที่รกร้างมาก บรรยากาศชวนขนลุกสุดๆถึงแม้ชาวบ้านเอาไม้มาขวางไว้เพื่อไม่