ตำนานผีสาวโรคุโรคุบิ

ตำนานผีสาวโรคุโรคุบิ เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้เห็นตลอดไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็ตาม หากเป็นคนไทยเราก็อย่างเช่น แม่นาคพระโขนงเป็นต้น ประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีตำนานเรื่องราวความลี้ลับ ความเชื่อ ภูตผี มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ตำนานผีสาวคอยาวที่ชื่อว่า โรคุโรคุบิ ตำนานเรื่องนี้เป็นอย่างไร เราจะมาเล่าให้ฟังแล้วอย่าหลอนล่ะ โรคุโรคุบิ คือ หมายถึง ผีสาวคอยาวชนิดหนึ่ง ตัวเธอนั้นจะมีภูตผีที่มีนิสัยแปลกอย่างหนึ่ง ตอนกลางวันเธอจะอาศัยแนบเนียนไปกับผู้คนแบบไม่รู้ตัว บางครั้งเธอก็ปลอมตัวเป็นสาวใช้ในบ้านของเศรษฐี บางทีเธอก็ปลอมตัวเป็นชาวนา เป็นแม่ค้า ซึ่งเธอจะเป็นคนสวยมากจึงทำให้ไม่มีใครสังเกตมากนัก แต่พอตกกลางคืนเธอจะถอดหัวออกมากลายเป็นผีสาวคอยาว เพื่อออกไปหาเหยื่อ ผู้โชคร้ายที่เจอเธอจะโดนดูดวิญญาณจนร่างกายเสียชีวิตไป เธอมักจะเลือกเหยื่อเป็นผู้ชายร่างกายแข็งแรงไว้ก่อนเพราะว่าพลังงาน พลังชีวิตเยอะ พอตอนเช้าเธอก็จะกลับคืนสู่ร่างเดิมกลายเป็นหญิงสาวที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นอะไร โรคุโรคุบิ เป็นภูตผีปีศาจที่มีตำนานเล่าเยอะมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเธอมักจะหนีจากการถูกจับกุมได้ทัน จากนั้นก็กบดานแ

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก ชื่อของบ้านเดิมนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เพราะหมายถึงนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือพระนารายณ์หลับ ณ เกษียรสมุทร (ทะเลนม) บนหลังอนันตนาคราช ในความเชื่อตามลัทธิเทวราชนั้น กษัตริย์คือพระนารายณ์อวตารมาเกิด และบ้านหลังนี้ได้รับชื่อนี้เพราะกษัตริย์ทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ มีประติมากรรม “นารายณ์บรรทมสินธุ์” บริเวณด้านหน้าบ้าน สร้างพระราชทานให้คนสนิทเล่าลือกันว่าบ้านนี้ผีดุ ลือกันมานานแล้ว เจ้าหน้าที่ที่มาหน้าที่ดูแลรักษา ก็เล่าลือกันนักหนาว่า หากทำอะไรเหมือนการไม่เคารพสถานที่ เป็นเจอดีกันทุกราย บางคนได้ยินเสียงม้าร้องในตอนดึกๆ บางคนเห็นผู้หญิงในชุดสไบเดินไปเดินมา และในเขตบ้านยังมีศาลท้าวหิรัญฮู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สร้างบ้านหลังนี้ อาถรรพท้าวหิรัญฮูนั้นมีเล่ากันมากมาย ปัจจุบันศาลของท่านที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังมีผู้ไปกราบไหว้ขอพรอยู่เสมอๆ อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพครับ (ที่เรียกว่าบ้านพิษณุโลก เพราะตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก) บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรร

เปิดตำนาน “ป่าคำชะโนด” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของชาว อุดรธานี

คำชะโนด เป็น แหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาขอหวยเพราะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ในอาณาจักรงูเป็นทางเชื่อมสู่เมืองบาดาลภายใต้การคุ้มครองของ “พญานาคราช” เกาะขาม คำชะโนดไม่เคยจมน้ำ! ป่าคำชะโนด หรือ วัดศิริสุทโธ ตั้งอยู่ที่ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเหมือนเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วย “ต้นจันนัว” มีตำนานเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ เช่น พญานาคใหญ่ สะพานคอนกรีต รูปปั้นพญานาค บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และรากของต้นมะเดื่อขนาดใหญ่ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคืออำเภอบ้านตงเคยถูกน้ำท่วม แต่น้ำรอบคำชะโนดยังเหมือนเดิม! วันนี้พี่หมี TQM จะพาเพื่อนๆมา เรียนรู้ตำนานป่าคำชะโนด พระธาตุ ข้อห้าม รวมถึงวิธีมาคำชะโนดสำหรับคุณ ตำนานป่าคำชะโนด กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีที่ดินผืนหนึ่งชื่อว่าหนองกระแสหรือหนองแส เป็นดินแดนของพญานาค แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งปกครองโดยเจ้าพ่อพญาศรีสุทโธ อีกส่วนเป็นของเจ้าพ่อสุวรรณนาค ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงในการหาอาหาร “ถ้าฝ่ายหนึ่งออกไปหาอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งต้องไม่ออกไป เพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน” แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดทะเลาะกันเรื่องแจกอาห

เรื่องเล่า โรงแรมหลอน

โรงแรมหลอน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2556 เรื่องมีอยู่ว่าเนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 คุณแม่และออฟฟิศต้องไปจัดบูทและเข้าร่วมประชุม แต่ ออฟฟิศแม่ก็นัดให้ไปร่วมงานในวันที่ 13 สิงหาคม ครับ เราก็เลยเลือกเดินทาง วันที่ 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า ผมกับพี่สาวตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้ไปเป็นเพื่อน 12 ชั่วโมงจากขอนแก่นไปกรุงเทพด้วยรถตู้ลำบากมาก ทางเข้ากทม.รถติด การจราจรเป็นอัมพาตประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัด โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วให้รีวิวดี. มีคนจองไปแล้วหลายดวง แต่พอไปถึงบ้านนาประมาณ 4 โมงเย็น ราว 23.00 น. ฝนตกหนัก ถนนถูกน้ำท่วมมองไม่เห็นทางอีกต่อไป ไม่สามารถไปที่โรงแรมที่ฉันจองไว้ เนื่องจากฝนตกหนักเราจึงตัดสินใจหาโรงแรมใกล้ไบเทค ตื่นเช้าจะได้ไปได้สะดวก รถไม่ติดเท่าไหร่ ป้าที่ทำงาน แม่ และคนขับรถ) ขณะขับรถไปรอบ ๆ โรงแรม โรงแรมแล้วโรงแรมเล่าในที่สุด…เราก็พบโรงแรมที่มีปัญหา…เมื่อคนขับเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม เราพบรถที่เปลี่ยวมากจอดอยู่ที่เคาน์เตอร์หน้าโรงแรม แม่กับป้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ถามว่ามีห้องว่างไ

13ซานต้าไอซ์แลนด์

13 ซานต้าไอซ์แลนด์ หลายคนอาจเคยได้ยินตำนานเรื่องเล่าถึงเทศกาลวันสำคัญก่อนหมดปี ที่ทั้งครอบครัวจะได้ใช้ชชีวิตอยู่ร่วมกันอย่าง วันคริสต์มาส พอกล่าวถึงวันแห่งการเฉลิมฉลองวันนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะไม่มีใครนึกถึงชายแก่ร่างใหญ่เครายาว สวมชุดสีแดง ที่มักจะขี่ลากเลื่อนมาพร้อมของขวัญกองโต หรือที่รู้จักกันดีในนาม ซานตาคลอส ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นความเชื่อต่อซานตาคลอสในรูปแบบที่ค่อนข้างสากล แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงซานตาคลอสตามตำนานเรื่องเล่า และความเชื่อของฝั่งไอซ์แลนด์ ซึ่งตำนานได้กล่าวถึงชายผู้มาเยือนในเดือนธันวาคมทั้ง 13 คน ที่มีความผิดปกติบางอย่างในแต่ละคน พวกเขาจะมาที่เมืองปีละครั้ง เพื่อมอบขวัญให้เด็กที่ทำตัวดีหรือก่อเหตุร้ายบางอย่างขึ้นกับเด็กนิสัยเสีย โดยพวกเขามีชื่อเรียกว่า Yule Lads หรือที่แปลว่าเด็กหนุ่มในวันตริสมาสต์ กระทั่งในปี 1746 ในไอซ์แลนด์เคยมีการสั่งห้ามไม้ให้เหล่าผู้ปกครองเล่าตำนานสยองขวัญเกี่ยวกับ Yule Lads ให้พวกเด็ก ๆ ฟังอีก ตำนานเล่าว่าพวกยูล เป็นลูกหลานของโทรลล์ Leppalúði และ Grýla ทุก ๆ ปีพวกยูลจะต้องลงมาที่เมืองในช่วง 13 วันก่อนคริสต์มาสโดยเริ่มจากยูลตัวแรกในคืนวันท

ตำนานคฤหาสน์เลมพ์

ตำนานคฤหาสน์เลมพ์ The Lemp Mansion เรื่องราวสยองขวัญในครั้งนี้นั้น คฤหาสน์เลมพ์ในเซนต์หลุยส์ ที่อยู่ในรัฐมิสซูรี มันเป็นคฤหาสน์ที่มีการกล่าวว่าเป็นหนึ่งในสิบสถานที่ที่มีผีสิงมากที่สุดในอเมริกา โดยวิญญาณที่คนพบเจอนั้นคงจะเป็นวิญญาณของครอบครัวเลมป์ ที่วิญญาณของพวกเขายังคงอยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้อยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คฤหาสน์แห่งนี้ได้เปลี่ยนจากบ้านของเศรษฐีมาเป็นพื้นที่ที่ไว้ทำสำนักงาน และต่อมาก็ทรุดโทรมเปลี่ยนมาเป็นหอพักให้กับผู้ที่ได้มาเที่ยวภายในประเทศอังกฤษได้มาพักผ่อนกัน และในที่สุดก็ได้รับการฟื้นฟูสู่สภาพปัจจุบันในฐานะโรงละครสำหรับอาหารค่ำรสเลิศ ร้านอาหาร และที่พักพร้อมอาหารเช้า โดยมีการพูดถึงคฤหาสน์ ในวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2547 แคที่ (Kathy Weiser) และ แอมี่ (Amy Stark) ทั้งสองได้เข้าไปเยี่ยมคฤหาสน์เลมพ์ และทั้งสองนั้นก็ได้เจอกับ โจ (Joe Gibbons) นักประวัติศาสตร์ของ St. Louis นักประวัติศาสตร์คนนี้นั้นใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้าเกี่ยวกับคฤหาสน์เลมพ์ เพื่อจะพิสูจน์เรื่องอะไรบางอย่างและการพิสูจน์ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของโรงแรมมาแล้วด้วย โดยคืนนั้น ทั้งสองได้พบกับโจที่บาร

ตำนานตึก455aSackett

ตำนาน ตึก 455a Sackett มีลักษณะที่ดูเหมือนหินสีน้ำตาลบรู๊คลินธรรมดา มีลักษณะที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เหมือนกับตึกทั่วๆไปที่หากคุณได้เห็นและเดินผ่านแล้วนั้น คุณก็จะไม่ได้หันมาดูตึกนี้อีกรอบแต่อย่างใด สำหรับคนไม่กี่คนที่รู้ มีประวัติศาสตร์อันมืดมิดที่เกี่ยวข้องกับอาคารแห่งนี้อยู่ ประวัติไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ เสียงเด็กที่สามารถได้ยินไปทั่วตึก และโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึงอื่นๆ โดยทั้งหมดนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในตึก ในเดือนเมษายนปี 1998 โดยผู้ที่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับความน่ากลัวนั้น นั่นคือเจนและครอบครัวของเธอ ในช่วงนั้นพวกเธอได้ย้ายเข้าไปอยู่ในตึกแห่งนี้โดยไม่รู้ถึงประวัติศาสตร์อันมืดมิด สำหรับเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นนั้น ได้เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าเจน โดยเธอได้เล่าเรื่องสยองขวัญที่ตัวเธอได้เจอผ่านการจดบันทึกของเธอ เธอได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้สั้น ๆ เป็นเรื่องราวที่ถูกเขียนมาในช่วงปี 2002 โดยสรุปได้ว่า: เธอได้ย้ายไปอยู่ที่ถนน 455a sackett เมื่อตอนที่เธอ ได้เลยว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง มันเป็นอพาร์ทเมนต์ที่มีความมืดอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าเราควรจะตื่นเต้นเพราะเป็นอพาร์ทเมนต์แร

ตำนานโรงแรมHotelMonteVista

ตำนานโรงแรม Hotel Monte Vista Hotel Monte Vista เป็นสถานที่พักผ่อนของใครหลายๆคน ในขณะที่คนที่เข้ามาพักผ่อนมักจะมาสำรวจสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้งหมดในรัฐแอริโซนาตอนเหนือ Hotel Monte Vista ยังคงเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ Downtown Flagstaff การพักที่โรงแรมที่นี่จะทำให้คุณได้เห็นวิถีชีวิตที่มีชีวิตชีวาของชาวอเมริกาตะวันตกผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แต่นอกเหนือจากสิ่งที่น่าเข้าไปพิสูจน์ในเรื่องของประวัติศาสตร์มากมายเกี่ยวกับเมืองรอบๆโรงแรมแห่งนี้แล้วนั้น ในโรงแรมก็ยังมีเรื่องราวให้พิสูจน์เพิ่มเติมเหนือไปกว่านั้นอีก เพราะโรงแรมแห่งนี้ก็ได้ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเรื่องผีหรือเรื่องราวแปลกๆที่ได้เกิดขึ้นมา Monte Vista เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องข่าวลือเรื่องการหลอกหลอน เช่นเดียวกับอาคารใกล้เคียงที่มีอายุใกล้เคียงกัน มีวิญญาณสิงสถิตอยู่ในห้องและห้องโถงบางห้อง ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีสีสันเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่วิญญาณบางดวงจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ภายในตึกแห่งนี้ ซึ่งใครหลายๆคนที่ได้เคยมาลองดีหรือได้เคยมาใช้บริการที่โรงแรมแห่งนี้และได้เจอเรื่องแปลกๆเข้า พวกเขาสนับสนุนให้สื่อสารกับผีหากคุณกำลังมองหาประสบกา

TheIslandoftheDolls

The Island of the Dolls เกาะร้างตุ๊กตาหลอน ลึกเข้าไปในใจกลางคลองของ Xochimilco – ร่องรอยสุดท้ายของชาวแอซเท็กในเม็กซิโกซิตี้ – เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผีสิงและโศกนาฏกรรมมากที่สุดในโลก: เกาะตุ๊กตา ที่นี่ บนพื้นที่เดียวซึ่งมีกระท่อมสามหลังและฝูงตุ๊กตาเน่าเปื่อย ชาวบ้านสาบานว่าพวกเขาเห็นผีและได้ยินเงาพูด พวกเขาเชื่อว่าที่แห่งนี้ได้ถูกสาปแช่ง Gerardo Ibarra ผู้ร่วมก่อตั้ง Ruta Origen บริษัทท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในเม็กซิโกกล่าวว่า “ในช่วงเวลาของ Cortez หลายคนหนีมาที่นี่เพื่อ Xochimilco และซ่อนตัวอยู่ในคลอง “คนเหล่านี้จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็กที่ซ่อนตัวจากผู้ที่ตามล่าพวกเขา และผู้หญิงหลายคนฆ่าตัวตายแทนที่จะถูกจับและข่มขืน [โดยชาวสเปนที่ตามล่าพวกเธอ] น่าแปลกใจที่เมืองนี้อยู่ในเขตเมืองของมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เม็กซิโกซิตี้แต่เดิมเป็นเกาะในทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาเซียร์รามาเดร อาณาจักรแอซเท็ก (1300 ปีก่อนคริสตกาล – 1521 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นกลุ่มแรกที่เริ่มพัฒนาพื้นที่ สร้างระบบของเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่า chinampas และระบบคลองสำหรับเกษตรกรในการนำทางหลังจากที่ชาวแ

SirenHeadเปรตหัวลำโพง

Siren Head เปรตหัวลำโพง เปรตหัวลำโพง มันเป็นดั่งสัตว์ประหลาดฮิวแมนนอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปี 2018 โดยศิลปินชาวแคนาดาที่รู้จักกันในชื่อ ทรีวอ เฮนเดอสัน (Trevor Henderson) Siren Head หรือ เปรตหัวลำโพง นี้นั้นได้รับการบรรยายโดย Henderson ว่าเป็นรูปแบบที่รูปลักษณะทางกายภาพที่มีลักษณะที่ไม่เหมือนกับธรรมชาติทั่วไปหรือที่ว่าก็คือมีรูปร่างที่แปลกประหลาด “static physical form of an supernatural entity”. Siren Head มีความสูงอยู่ประมาณ 40 ฟุต มันสามารถมองเห็นคนหรือรอบข้างได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตาก็ได้ มันไม่จำเป็นที่จะต้องกิน แม้ว่าตัวมันนั้นจะมีฟันแบบที่มีลักษณะที่น่ากลัวที่สามารถกัดอะไรก็สามารถขาดได้เพียงกันกัดแค่ครั้งเดียว แต่ถึงอย่างไร เจ้าเปรตหัวลำโพงนี้นั้น ได้มีการพูดถึงกันไว้ว่า มักจะไม่ค่อยพบเห็นในพื้นที่ที่มีประชากรหรือเป็นที่ๆมีคนวุ่นวายเป็นจำนวนมาก และมักจะอยู่กับที่แต่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมากหรือเป็นพื้นที่กว้างขว้างและมันก็ชอบที่จะล่ามนุษย์ด้วยเช่นกัน มันจะใช้ความเร็วของมันในการไล่ล่าและมันใช้ลักษณะสิ่งที่คล้ายขั้วโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวของมันเพื่อล่ามนุษย์ Siren Head ได้รับควา