STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

ผู้นำโชคลาภแห่งประเทศญี่ปุ่น

ผู้นำโชคลาภแห่งประเทศญี่ปุ่น

ผู้นำโชคลาภแห่งประเทศญี่ปุ่น มาเนกิเนโกะ หรือ แมวนำโชคที่หลายๆคนรู้จัก สัญลักษณ์แห่งความโชคดีและโชคลาภ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นในรูปลักษณ์ของรูปปั้นแมวกวักที่ประดับอยู่ในร้านค้าหรือบ้านเรือน มาเนกิเนโกะจะยกอุ้งเท้าข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างขึ้น พร้อมกับเคลื่อนไหวที่เหมือนกับกำลังกวักเรียกบางสิ่ง ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น “แมว” เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหนือธรรมชาติมาอย่างเนิ่นนาน ทั้งเรื่องของดวงไฟประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ คำสาปแช่ง เป็นต้น ในขณะเดียวก็มีประเพณีพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานที่มองว่าแมวเป็นสัตว์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ เพราะแมวจะจับหนูและสัตว์ที่ทำลายพืชผลเช่น หนอนไหม กินเป็นอาหาร ทำให้พวกมันได้รับความเคารพ เป็นสัตว์นำโชคลาภ เริ่มได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นในช่วงปลายยุคเอโดะ เชื่อกันว่าแมวที่ยกอุ้งเท้าขวาจะนำโชคลาภด้านเศรษฐกิจมาให้ ในขณะที่แมวที่ยกอุ้งมือซ้ายจะเรียกลูกค้าให้ นอกจากนี้ สีของแมวเองก็มีความสำคัญกัน สมัยก่อนแมวดำ ได้รับการขนานนามว่าเป็นแมวที่ดี เนื่องจากความสามารถในการมองเห็นในที่มืด ทำให

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก

สุสานยานอวกาศอยู่ที่ไหนบนโลก ปัจจุบันดาวเทียมประดิษฐ์มากกว่า 15.5 พันดวงโคจรรอบโลก นี่คือยานพาหนะทางทหาร สถานีตรวจอากาศ และดาวเทียมสื่อสารและโทรคมนาคม เศษโลหะทั้งหมดนี้ไม่ช้าก็เร็วตกลงสู่พื้นโลก แต่ไม่ใช่แค่นั้น แต่ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งบนโลกของเรา เรียกว่าพอยท์นีโม่ นี่คือสุสานที่แท้จริงของยานอวกาศ วิธีกำจัดยานอวกาศ เริ่มต้นด้วยการชี้แจงเล็กน้อยว่า “การรื้อถอน” และการกำจัดยานอวกาศเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อดาวเทียมหรือสถานีอวกาศที่โคจรหมดแรง มีเพียงสองวิธีที่จะนำออกจากวงโคจรและส่งไปยังส่วนที่เหลือ หากดาวเทียมมีวงโคจรที่สูงมากดังนั้นความน่าจะเป็นของการชนกันของอุปกรณ์ที่จำเป็นกับอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นจึงลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ สำหรับดาวเทียมที่โคจรอยู่ต่ำกว่าพื้นผิวโลก เป็นการดีกว่าและประหยัดกว่าที่จะชะลอความเร็วและปล่อยให้พวกมันตกลงสู่พื้นโลก ถ้าดาวเทียมมีขนาดเล็ก มันจะเผาไหม้และสลายไปในชั้นบรรยากาศอย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอุกกาบาตหลายร้อยดวงที่ตกลงมาบนโลกทุกวัน แต่ถ้าดาวเทียมมีขนาดใหญ่ และมีโอกาสที่จะเผาไหม้ไม่หมดในอากาศ กระบวนการกำจัดจะต้องให้ความสนใจและวางแผนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แนว

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ

สัตว์มหัศจรรย์นาร์วาฬ หลายๆคนก็คนเคยได้ยินตำนานของยูนิคอร์น  ม้าที่มีเขาเป็นเกลียว  ตัวสีขาวบริสุทธิ์  วิ่งได้เร็ว  หาตัวจับยาก  และที่สำคัญ คือ จะยอมเข้าใกล้เฉพาะหญิงสาวพรหมจรรย์   ซึ่งยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล หรือ นาร์วาฬ  ก็มีเขาเป็นเกลียวจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าจะยอมเข้าใกล้แต่สาวพรหมจรรย์ด้วยหรือเปล่านะ ชื่อของนาร์วาฬ มาจาก ภาษา Old Norse มีความหมายว่า วาฬที่มีลักษณะคล้ายซากศพ เพราะมันชอบว่ายน้ำโดยหันทางด้านท้องมันขึ้นด้านบน และการที่มันมีสีผิวที่ซีด งา (ที่เหมือนจะเป็นเขาของยูนิคอร์น) แต่ยื่นออกจากปากของนาร์วาฬนี้ ยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า งาอันยาวยืดนี้เป็นความภาคภูมิใจของนาร์วาฬเพศผู้ที่ใช้ดึงดูดความสนใจ ระหว่างการจับคู่ เขา หรือ งา ที่เอาไว้อวดสาวๆ นาร์วาฬพบมากบริเวณขั้วโลกเหนือ มักจะอพยพผ่านทางรอยนํ้าแข็งแยกดังภาพข้างบน  ถึงมันยังไม่เป็นสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์แต่ก็ถูกล่าเป็นจำนวนมาก เพราะเขาของมันนั่นเอง เห็นอย่างนี้แล้วก็แอบเชียร์ในใจว่ายูนิคอร์นจริงๆอาจจะมีก็ได้  ขนาดปลาวาฬยังมีเขาเลย ม้าก็อาจจะมีก็ได้นะเป็นปลาวาฬขาวสายพันธุ์หนึ่ง แต่ตัวผู้จะมีเขี้ยวยื่นออกมาจากปากขอ

สัตว์เทพกรีก“Chimera”

สัตว์เทพกรีก“Chimera”

สัตว์เทพกรีก“Chimera” เป็นสัตว์ลูกผสมหายใจไฟมหึมาของLyciaในเอเชียไมเนอร์ประกอบด้วยส่วนของสัตว์มากกว่า 1 ชนิดโดยปกติจะแสดงเป็นสิงโตมีหัวของแพะยื่นออกมาจากด้านหลังและหางที่อาจจบลงด้วยหัวงู มันเป็นหนึ่งในลูกหลานของฟอนและตัวตุ่นและพี่น้องของมอนสเตอร์เช่นเซอร์เบอรัสและLernaean ไฮดรา Chimera คำว่า “ไคเมร่า” ใช้เพื่ออธิบายสิ่งมีชีวิตในตำนานหรือสมมติที่มีชิ้นส่วนที่นำมาจากสัตว์หลายชนิดเพื่ออธิบายถึงสิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่แตกต่างกันมากหรือมองว่าเป็นจินตนาการที่ดุร้ายไม่น่าเชื่อหรือน่าตื่นตา บรอนซ์ของชาวอีทรัสคัน ตามที่Hesiodแม่ของ Chimera เป็น “เธอ” ที่คลุมเครือซึ่งอาจหมายถึง Echidna ซึ่งในกรณีนี้พ่อน่าจะเป็นTyphonแม้ว่าอาจจะเป็นHydraหรือCetoก็มีความหมายแทน อย่างไรก็ตามในตำนานApollodorus  และHyginusทำให้ Chimera เป็นลูกหลานของ Echidna และ Typhon เฮเซียดนอกจากนี้ยังมีสฟิงซ์และNemean สิงโตเป็นลูกหลานของOrthusและคลุมเครืออีก “เธอ” มักจะเข้าใจว่าอาจจะหมายถึงความฝันแม้อาจจะแทนตัวตุ่นหรืออีกครั้งแม้Ceto โฮเมอร์ให้คำอธิบายเกี่ยวกับ Chimera ในอีเลียดโดยกล่าวว่า

ความจริงเกี่ยวกับคลีโอพัตรา

ความจริงเกี่ยวกับคลีโอพัตรา

ความจริงเกี่ยวกับคลีโอพัตรา แม้เกิดในอียิปต์ แต่ครอบครัวของเธอเป็นชาวกรีกแห่งมาซีโดเนีย บิดาของเธอคือ ‘โซเตอร์: โปโตเลมีที่1 ซึ่งเป็นขุนพลคนหนึ่งในกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราช ราชวงศ์ปโทเลมีขึ้นครองอียิปต์หลังจากอเล็กซานเดอร์สิ้นพระชนม์ในปี 323 เป็นราชวงค์ถึง 3 ศตวรรษ อย่างไรก็ตาม, แม้มิได้เป็นชาวอียิปต์โดยกำเนิด แต่คลีโอพัตราดำเนินรอยตามวัฒนธรรมเก่าแก่ของอียิปต์ เธอเป็นเชื้อสายปโตเลมีคนแรกที่เรียนภาษาอียิปต์ เช่นเดียวกับผู้ปกครองอื่นๆในยุคนั้น สมาชิกในราชวงศ์ปโตเลมีสมรสกันเองระหว่างสายเลือดเดียวกัน เพื่อดำรงไว้ซึ่งสายเลือดบริสุทธิ์ บรรพชนของคลีโอพัตรานับสิบแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องหรือระหว่างพี่น้องกันเอง เช่นเดียวกับบิดาและมารดาของเธอซึ่งเป็นพี่น้องกันเพื่อดำรงจารีตเดิมเอาไว้ คลีโอพัตราแต่งงานกับน้องชายวัยรุ่นสองคน ทั้งสองเข้าพิธีสมรสและเป็นผู้ปกครองร่วมในระหว่างรัชสมัยของเธอ คลีโอพัตราเป็นสตรีที่งดงาม แต่ความงามมิใช่สิ่งมีค่าสูงสุดสำหรับเธอ โรมันโฆษณาว่าคลีโอพัตราใช้เสน่ห์ยั่วยวนเป็นอาวุธทางการเมือง กระนั้นเธอได้ชื่อว่าเป็นสตรีผู้ฉลาดหลักแหลม สามารถพูดได้นับสิบภาษา ผ่านการศึกษาด้านคณ

ตำนานเจงล็อต

ตำนานเจงล็อต

ตำนานเจงล็อต มันคือตุ๊กตาที่รูปร่างคล้ายคนตัวผอมแห้งขนาดเล็ก แต่กลับมีเล็บและเขี้ยวยาวราวกับสัตว์ป่า และเชื่อกันว่ามีฤทธิ์สามารถทำให้ผู้ครอบครองโชคดีหากดูแลอย่างถูกต้อง ลักษณะตุ๊กตา มีลักษณะเป็นตุ๊กตาขนาดเล็ก ที่มักปรากฏตัวในนิทานพื้นบ้านของประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย พวกมันมักถูกอธิบายว่าเป็นมัมมี่หรือ “ตุ๊กตามีชีวิต” ลำตัวยาวประมาณ 15-20 ซ.ม. ใบหน้าอาจดูคล้ายกับโครงกระดูกหรือใบหน้าของมนุษย์ ดวงตาดูแปลกประหลาด เขี้ยวยาวแหลมคมและเล็บยาว โดยรวมแล้วมันดูเหมือนกับฟอสซิลของซากศพมนุษย์ ส่วนเท้าเชื่อมต่อเข้าหากันจนดูคล้ายกับนางเงือก สิ่งที่ทำให้เจงกอตมีความน่าสนใจที่สุดคือ ความเชื่อที่ว่าเส้นผมของมันจะสามารถงอกยาวออกมาได้เองเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวของเจงล็อต ถูกบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1997 และเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างใหม่มาก อย่างไรก็ตามชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งก็เชื่อว่าจริงๆ แล้วเจงล็อต เกิดขึ้นในปี 1972 หรือไม่ก็ก่อนหน้านั้นเป็นร้อยๆ ปีมากกว่า มันเคยเป็นมนุษย์ผู้ซึ่งเรียนรู้วิชาเวทมนตร์ดำ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตเป็นอมตะ ดังนั้นเมื่อพวกเขาตายร่างกายจึงถูกผืนดินปฏิเสธ จนไม่เน

พิธีกรรมศักสิทธิ์เต้านางด้ง

พิธีกรรมศักสิทธิ์เต้านางด้ง

พิธีกรรมศักสิทธิ์เต้านางด้ง พิธีกรรมนี้คนที่ไม่เข้าใจความเชื่อและความหมายก็หาว่างมงาย แต่พิธีกรรมนี้สำหรับบางคนคือกิจกรรมเพื่อจรรโลงใจ หล่อเลี้ยงความหวังในวิกฤตภัยแล้งช่วงเพาะปลูก วิธีนี้ไม่ใช่การต่อสู้หรือฝืนธรรมชาติ แต่เป็นการอ้อนวอน ขอร้องต่อธรรมชาติ ซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกับธรรมชาตินั่นเอง เป็นหนึ่งในหลายพิธีกรรมที่ใช้ประกอบการอ้อนวอนขอฝน พบเห็นทั่วไปในภาคอีสาน คำว่า “นางด้ง” หมายถึง ผีผู้หญิงที่สถิตใน “กระด้ง”  นัยยะของการเลือกใช้อุปกรณ์นี้เพราะ กระด้ง เ การประกอบพิธีมีนัยยะถึงการมีข้าวในการบริโภค การฝัดข้าวเปลือก มีความหมายคล้ายกับการแยกความไม่ดีให้ออกไปจากชุมชนประเพณีการเต้านางด้ง จะใช้ไม้คาน 2 แท่งนำมาขัดกัน แล้วมัดตรงกลาง ไม้คานทั้งสองจะแบ่งเป็นไม้สำหรับฤดูแล้ง เรียกว่าหลักแล้ง และไม้สำหรับฤดูฝน เรียกว่าหลักฝน คนจับจะเป็นผู้หญิง 2 คน คนหนึ่งเป็นพี่สาวคนโต หรือน้องสาวคนสุดท้อง อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานและมีลูก เรียกว่าแม่ฮ้าง หรือแม่หม้าย เหตุผลที่ใช้ “ไม้คาน” เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนขนย้ายข้าว เช่น การหาบข้าว หาบต้นกล้า นัยยะสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้ คือ ความอุดมสมบู

โหงพราย

โหงพราย

โหงพราย วิญญาณของคนที่ตายจากอุบัติเหตุที่ร้ายแรง หรือตายจากการฆาตกรรม สรุปคือตายโหงนั่นเอง และยิ่งถ้าวิญญาณของโหงพราย เป็นวิญญาณที่แรงอยู่แล้ว (เช่น เป็นนักเลงหัวไม้ , เป็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น) ว่ากันว่าก็จะช่วยให้โหงพรายนั้นมีอิทธิฤทธิ์อำนาจมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมอผีหรือผู้เล่นของ มักจะแสวงหาวิญญาณประเภทนี้เพื่อไปทำเป็น “โหงพราย” สำหรับในการช่วงใช้ต่างๆ เป็นคุณไสย์ทางด้าน มนต์ดำไม่ใชสายขาว เลี้ยงดีให้คุณ เลี้ยงไม่ดีให้โทษ ถือว่ามีความอันตรายต่อผู้ที่มีไว้ครอบครองหรือสนใจทางด้านนี้ก็ให้ศึกษาดีๆว่ากันว่ามีการนำวิญญาณมากักขังเลี้ยงไว้ เตือนภัย ไล่ศัตรู เลี้ยงดีก็ดีไป เลี้ยงไม่ดีเลี้ยงไม่ได้ ผีร้ายอาจย้อนมาทำร้ายเจ้าของอย่างเช่นเรื่องขุนแผนก็เลี้ยงพรายไว้ บางตำนานว่าเป็นชาย บ้างว่าเป็นหญิง ขุนแผนได้โหงพราย เเละ อาคมเครื่องรางของขลังมาจากอาจารย์สมัยที่บวชเป็นเณรอยู่วัดแค เเละโหงพรายเคยช่วยพลายงามตอนที่ขุนช้างลวงมาฆ่าด้วย แน่นอนว่าการเอาผีตายโหงมาเลี้ยง ก็จะเป็นจะต้องมีอิทธิฤทธิ์อาคมที่สามารถสะกดผีร้ายได้ ไม่เช่นนั้นมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวหมอผีหรือคนเลี้ยงเอง และหากได้มาเลี้ยงแล้ว ก

ต้นกำเนิดนางกวัก

ต้นกำเนิดนางกวัก

ต้นกำเนิดนางกวัก เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่านางกวักคือรูปปั้นหรือรูปภาพที่มักจะถูกนำมาวางไว้หน้าร้านค้า ร้านอาหาร หรือธุรกิจอื่นๆ ที่มีหน้าร้านและพ่อค้าแม่ขายมีไว้เพื่อกราบไหว้บูชา ซึ่งมีความเชื่อว่าจะทำให้กิจการค้าของตนเจริญรุ่งเรืองค้าขายดีขึ้น เหมือนกวักลูกค้าเข้าร้านโดยนางกวักมีชื่อที่แท้ชื่อเดิมจริงว่า สุภาวดี มีพ่อหรือบิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ ส่วนแม่หรือมารดาชื่อ สุมณฑา เป็นผู้ให้กำเนิดนางขึ้น เดิมทีนางเกิดเป็นคนเมืองมัจฉิกาสัณฑ์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้จากเมืองสาวัตถีครอบครัวของนางมีอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อต้องการจะขยับขยายกิจการให้สะดวกและใหญ่โตมากขึ้น จึงได้ไปซื้อเกวียนมา 1 เล่ม และนำสินค้าไปขึ้นเกวียนที่มีอยู่เพื่อไปเร่ขายของตามที่ต่างๆ เร่ขายไปหลายที่ ซึ่งนาง ก็ได้ขออนุญาตพ่อที่จะเดินทางตามไปขายของด้วยในอยู่บางครั้งเพื่อหวังเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขายระหว่างเดินทางไปค้าขาย นางสุภาวดีได้พบกับ ผู้เป็นอริยสงฆ์เมื่อนางได้รับฟังธรรมเทศนา พระกัสสปเถระเจ้าก็ได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ประสิทธิ์ประสาทพรให้ครอบครัวของนางสุภาวดีในทุกครั้งที่นางได้มีโอกา

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ภาพเขียนผีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด มันแสดงภาพของวิญญาณชายผู้ไว้หนวดเคราผู้โดดเดี่ยว กำลังถูกจูงโดยเชือกไปยังสู่ชีวิตหลังความตายโดยสตรีคนหนึ่ง ซึ่งภาพผีดังกล่าวปรากฏอยู่บนแผ่นดินเหนียวโบราณขนาดเล็กเท่าฝ่ามือจากเมืองบาบิโลน ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 3,500 ปีก่อน โดยมีบางส่วนของแผ่นที่หายไป ผู้ค้นพบชี้ว่าอีกด้านหนึ่งของแผ่นจารึกนี้บรรยายถึงพิธีกรรม วิธีการขับไล่ผีชายที่กลับมายังโลกเนื่องจากรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และออกมาหลอกหลอนโดยการหาคู่ครองผู้หญิงให้ เพื่อให้เขาได้ไปสู่สุขติในยมโลก ซึ่งในอดีตแผ่นจารึกดังกล่าวอาจเคยอยู่ในห้องสมุดเวทมนตร์ที่บ้านหมอผี หรือในศาสนถานของคนในเมืองบาบิโลน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาษาอักษรรูปลิ่ม ที่ใช้กันในยุคโบราณ ที่ปรากฏอยู่บนแผ่นจารึกนี้ เขาเผยว่าวัตถุโบราณสุดน่าทึ่งดังกล่าวถูกมองข้ามมาเป็นเวลานาน โดยมันแสดงถึงความเชื่อเรื่องผีสำหรับคนยุคดังกล่าว และต้องการช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ไม่เป็นสุขเหล่านี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์เขาชี้ว่าสิ่งที่ผีเพศชายในภาพต้องการคือการหาคู่รักให้ เพื่อที่จะพาเขาไปสู่สุขติภาพเขียนนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในคลังเก็บวัตถุโบราณของพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ศตวร