ตำนานเซนทอร์
เซนทอร์ (Centaur) มนุษย์ม้า หรือ มนุษย์ครึ่งม้า ครึ่งบนเป็นมนุษย์ครึ่งล่างเป็นม้า เป็นศัพท์ที่หลายๆคน คงจะคุ้นเคยกันอยู่บ้าง บางคนอ่านแล้วทราบถึงลักษณะรูปร่างของเซนทอร์ หรือ บางคนอาจรู้จักเพราะเคยดูจากหนังภาพยนตร์ หรือ จากการอ่านหนังสือนิยายแฟนตาซีต่างๆ ยกตัวอย่างจากหนังภาพยนตร์เรื่อง Narnia, Harry Potter หรือ Percy Jackson and the Olympians เมื่อพูดถึงเซนทอร์ก็จะทำให้นึกถึงเทพเจ้าต่างๆด้วยเช่นกัน เพราะ เซนทอร์นั่นเป็นสัตว์มหัศจรรย์ในยุคสมัยของเทพเจ้ากรีกโรมัน โดยเซนทอร์ถูกสร้างให้มีบทบาทในด้านภาพยนตร์เป็นอย่างมาก
เซนทอร์ เป็นสัตว์ในนิยายกรีกมีลักษณะครึ่งคนครึ่งม้า คือมีร่างท่อนบนตั้งแต่หัวถึงเอวเหมือนมนุษย์ทุกประการแต่ไม่มีเขา และท่อนล่างมีลักษณะเหมือนม้าคือมี4ขา แข็งแรงบึกบึนและว่องไว และเซนทอร์ส่วนใหญ่นั้นจะมีหางสีเดียวกับเส้นผม และตามตำนานเล่าว่าเหล่าเซนทอร์มีพื้นที่อาศัยอยู่ที่แถบภูเขาของอาคาเดีย และแคว้นเทสสาลีในประเทศกรีซ เซนทอร์มีทั้งเพศหญิงและเพศชาย แต่เซนทอร์เพศหญิงมักจะปรากฎในงานศิลปะมากกว่านวนิยายต่างๆ เซนทอร์มีบทบาทในตำนานเทพของกรีกเป็นอย่างมาก สามารถเห็นได้จากในนิยายเกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆจะมีเซนทอร์เป็นตัวละครประกอบด้วยอยู่เสมอ และในสมัยก่อนอารยธรรมกรีก ชาวเผ่าอินเดียแดงบางเผ่ามีการใช้สัญลักษณ์ของเผ่าที่เป็นรูปครึ่งคนครึ่งม้า ซึ่งในยุคแรกๆ เซนทอร์มีชื่อเรียกว่า ‘ฮิปโปเซนทอร์’ ฮิปโปเซนทอร์ เป็นปีศาจที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ ฮิปโปเซนทอร์ได้มอบเครื่องรางให้กับชาวอินเดียแดงและได้นำความเชื่อต่างๆเกี่ยวกับเซนทอร์เข้าสู่ยุโรป อีกทั้งยังทำให้เชื่อว่าเซนทอร์เป็นสัญลักษณ์ของเผ่านักรบที่น่าเกรงขาม
ในตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณนั้น เซนทอร์แบ่งได้เป็นสองตระกูลคือตระกูลอิคซอนและตระกูลโครนัส ตระกูลอิคซอนเกิดจากอันธพาลแห่งสวรรค์ตระกูลนี้จะมีนิสัยที่ป่าเถื่อน ไร้การศึกษา มีพละกำลังมาก และชอบใช้ความรุนแรง ส่วนตระกูลโครนัสเกิดจากนางฟีลีร่าและเทพโครนัสบิดาของเทพซุส โดยที่สองตระกูลนี้มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ไครอน เซนทอร์ที่หลายๆคน เคยได้ยินมาบ้างจากนิยายต่างๆ ไครอนเป็นเซนทอร์ในตระกูลโครนัสเป็นลูกของโครนัสกับฟีลีร่า ไครอนเป็นเซนทอร์ที่นิสัยดีและฉลาด มีความสามารถในหลายๆด้าน เช่น ดนตรี ยา และการยิงธนู และด้วยความที่ไครอนมีความสามารถมากจึงได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของตำนานกรีกหลายๆคน เช่น เฮอร์คิวลีส เป็นต้น
หลังจากไครอนได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของตำนานหลายๆคน ไครอนจึงได้รับพรจากเทพซุสให้ให้มีอายุเป็นอมตะและเหตุการณ์สำคัญของไครอนได้เกิดขึ้นเมื่อเฮอร์คิวลีสได้มีเรื่องกับกลุ่มเซนทอร์ โดยที่เฮอร์คิวลีสคิดว่ามีการทำร้ายฉุดผู้หญิงซึ่งนั่นคือการร่วมเพศของเซนทอร์ โดยปกติในการร่วมเพศของเซนทอร์มักใช้ความรุนแรงกับเพศเมีย เฮอร์คิวลีสเข้าใจว่ามีการทำร้ายจึงได้ต่อสู้กับฝูงเซนทอร์และเมื่อถูกรุมเข้ามากๆก็ได้ใช้ธนูอาบยาพิษยิงใส่ฝูงของเซนทอร์แต่มีลูกหนึ่งพลาดไปถูกไครอนที่เป็นอาจารย์ของตนจึงทำให้รู้สึกผิด แต่ไครอนไม่สามารถตายได้เนื่องจากได้รับพรให้เป็นอมตะจึงทรมานกับพิษของลูกธนูเป็นอย่างมาก จึงขอให้เทพซุสประทานความตายให้แก่ตน หลังจากนั้นไครอนก็กลายเป็นกลุ่มดาวรูปเซนทอร์
ตำนานเกี่ยวกับ เซนทอร์ นั่นมีหลากหลายมากมายในตำนาน บางตำนานกรีกก็เล่าว่า เซนทอร์นั้นสืบเชื้อสายมาจากเซนทอรัส บุตรของเทพเจ้าอะพอลโลกับนางสทิลเบีย โดยเซนทอรัสได้เสพสมกับนางม้าแห่งแมกนีเซีย จึงเกิดเป็นเซนทอร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บางตำนานก็เล่าว่า เซนทอร์คือพวกที่ใช้ม้าเป็นพาหนะโดยอาศัยอยู่ตามละแวกเขาในแคว้นเทสสาลี ประเทศกรีซ เมื่อมองไกลๆ
จึงทำให้มองเป็นอมนุษย์ หรือ เซนทอร์ บางตำราก็เชื่อว่ามีกษัตริย์องค์หนึ่งนามว่า อิกซิออน Ixion ได้ทำให้เทพเจ้าซุส โกรธจึงโดนสาปให้ลูกๆของ อิกซิออน Ixion กลายเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้า ถึงจะมีตำนานที่หลากหลายแต่ความเชื่อในเรื่องของเซนทอร์ไม่แตกต่างกันมากนัก คือคนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าเซนทอร์นั่นมีนิสัยที่ดุร้าย แต่ก็ยังมีลักษณะของนักรบที่ดูน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันอีกด้วย
เซนทอร์มีบทบาทหลากหลายในด้านภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Narnia เซนทอร์ถูกสร้างให้มีบทบาทตรงกันข้ามกับลักษณะในตำนานที่กล่าวว่าเซนทอร์มีนิสัยดุร้าย ไม่เป็นมิตรและไม่ชอบมนุษย์เป็นอย่างมาก แต่ในภาพยนตร์ผู้สร้างได้ให้เซนทอร์มีบทบาทในด้านความดี คือเป็นผู้ช่วยมนุษย์ทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในป่า Narnia ทั้งยังสร้างให้เซนทอร์มีลักษณะนิสัยที่ดี มีน้ำใจต่อมนุษย์ แต่ยังคงความดุร้ายและว่องไวเมื่อเกิดสงคราม มีความแข็งแรงและมุ่งมั่นที่จะเอาชนะในการสู้รบ และในบางภาพยนตร์ก็ได้สร้างให้เซนทอร์มีบทบาทเป็นตัวร้ายด้วยเช่นกัน
เซนทอร์ทำให้เห็นได้ถึงการจินตนาการในแต่งนวนิยายของกรีกในสมัยนั้นๆ แสดงให้เห็นว่าชาวกรีกมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพและอมนุษย์จึงสร้างเซนทอร์ให้มีบทบาทในหลายๆเรื่องที่เป็นตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าทั้งในแง่ลบและแง่บวก หากในชีวิตจริงมีเซนทอร์อยู่ในชีวิตจริงคงจะมีความเพลิดเพลินและสีสันไม่มากก็น้อย
เรื่องราวของเซนทอร์ที่เลวร้าย
เรื่องเซนทอร์เลวก่อนละกัน ในตำนานกรีกเล่าว่า อิคซิออนเป็นราชาแห่งนครลาพิธ เผ่าพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในเธสสาลี อิคซิออนแต่งงานกับนางไดอา โดยสัญญากับพ่อตาว่าจะหาสินสอดดีๆให้ แต่ที่สุดเขาก็ทำเมินเฉย พ่อตาเลยขโมยฝูงม้าของเขาไปแทนสินสอด อิคซิออนโมโหมาก ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนผิด เลยหาทางวางแผนฆ่าพ่อตาซะ การฆาตกรรมนี่ละครับ ที่ทำให้เขาถูกประจาน มีแต่คนรุมกล่าวโทษ และไม่มีใครยอมล้างบาปให้ เขาถูกเนรเทศ และถึงกับเริ่มสติเสีย
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เทพพระเจ้าอย่างซูสรู้สึกสงสาร เพราะอย่างน้อยอิกซิออนก็เป็นเชื้อสายของแอริส หรือที่รู้กันในนาม “มาร์ส์” เทพแห่งสงคราม ซึ่งเป็นบุตรของพระองค์ เทพเจ้าซูสเลยตัดสินใจพาอิคซิออนขึ้นไปยอดเขาโอลิมพัสอันเป็นดินแดนแห่งทวยเทพเพื่อเป็นการปลอบใจ และ คงหวังดีอยากล้างบาปที่อิกซิออนฆ่าพ่อตาให้
แต่อิคซิออน มนุษย์ผู้เต็มไปด้วยตัณหาคนนี้ได้รับความปรานีถึงขนาดได้ขึ้นถึงยอดสวรรค์ กลับไม่ได้ทำให้เขาสำนึกอะไรแต่ประการใดเลย ยิ่งได้ไปเห็นบรรดาเทวีทั้งหลายผู้เปี่ยมไปด้วยความงาม ดูยิ่งกระตุ้นต่อมตัณหามากกว่าเก่า แต่เทพีที่ทำ ให้เขาถึงกับวางแผนการจะเข้าหาก็คือ เฮรา ราชินีสวรรค์ ซึ่งก็คือมเหสีของซูสนั่นเอง
เฮราคงมีทิพยญาณหยั่งรู้ เธอฟ้องซูส (อีกตำนานหนึ่งบอกว่า ซูสหยั่งรู้ได้เองครับ) มหาเทพแทบไม่อยากเชื่อว่า อิคซิออนจะทรยศพระองค์ได้ถึงขนาดนั้น แต่เพื่อความไม่ประมาท ท่านจึงวางกับดัก พอเห็นอิคซิออนหลับอยู่กลางสนาม พระองค์ก็ปั้นเมฆปลอมเป็นเฮรา (เมฆปลอมนี่คือ เนฟิลี-เทพีแห่งเมฆ) แล้วนำร่างปลอมของเฮราไปวางไว้ข้างกายอิคซิออน เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเห็นเข้าก็แสนดีใจ เข้าข่มขืนร่างแปลงทันที ซูสเห็นดังนั้นก็กริ้วมาก ความสงสัยกลายเป็นจริง พระองค์ไล่อิคซิออนลงจากโอลิมพัส แถมด้วยการขว้างสายฟ้าใส่ แล้วสั่งให้ลงโทษเพิ่มด้วยการมัดตัวเขาไว้กับล้อเพลิงที่หมุนไปรอบสวรรค์ไม่มีวันจบ (ต่อมาคงเอาลงไปไว้ที่ขุมนรกทาร์ทารัสล่ะครับ)
แต่กระนั้นผลพวงจากความไวของอิคซิออน ก็ทำให้นางเนฟิลีมีลูก คือ เซนทอรัส ว่ากันว่าเป็นเด็กผิดรูป ไม่เป็นที่รักของปวงเทพ จึงถูกส่งมายังพื้นโลก กระนั้น เซนทอรัสก็ยังไม่มีศักดิ์ศรีแม้แต่กับคน ในที่สุดเมื่อไม่มีใครคบ อยู่กับใครก็ไม่ได้ ก็เลยหลบลี้ไปอยู่แถบภูเขาเพลิออนที่ที่ทำให้สบายใจ เซนทอรัสอยู่กับสัตว์ สุดท้ายก็ผสมพันธุ์กับแม่ม้าที่นั่น ลูกๆของเขาคือ เซนทอร์พันธุ์อิคซิออนนี่ละครับ
เซนทอร์มีส่วนบนตั้งแต่เอวขึ้นไปเป็นผู้ชายและส่วนล่างเป็นลำตัวม้าหนุ่มกล้ามเนื้อเป็นมัดตึง ส่วนใหญ่อุปนิสัยดุร้ายและมีพละกำลังเหมือนม้าป่า บวกกับความดิบเถื่อนของมนุษย์ผู้ชาย ชอบดื่มไวน์ พอเมาได้ที่ก็หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งและไล่ปล้ำผู้หญิง พวกมันมีวิญญาณของสัตว์มากกว่าคน ไม่กลัวเกรงใครทั้งสิ้น ยกเว้นเทพอยู่สององค์คือ อีรอส-กามเทพ และไดโอไนซัส-เทพแห่งเมรัย
ว่ากันว่า ใครเห็นฝูงเซนทอร์ควบขับกันมาอย่างเมามันเต็มที่ มีอีรอสคอยถือแส้กำกับ และไดโอไนซัสเมาแอ่นอยู่บนรถทรงละก้อ จงรีบจับลูกสาววัยรุ่นซ่อนไว้ ถ้าจะให้ดียิ่งกว่าก็ต้องไม่ลืมตีไม้ปิดถังไวน์ซะด้วย เท่านี้ก็พอจะหลบภัยได้ ทีนี้ มาถึงเซนทอร์ดีเลิศกันบ้างครับ เซนทอร์ตัวนี้ไม่ธรรมดาหรอกนะ เพราะเป็นเซนทอร์ทรงคุณธรรมนามว่า “ไครอน”
ไครอนเป็นลูกของโครนัสกับฟีไลรา นางอัปสรน้ำผู้เลอโฉม ไครอนมีรูปกายเป็นครึ่งม้าครึ่งคนเช่นเดียวกับเซนทอร์อื่น แต่ความแตกต่างน่าจะอยู่ที่ดวงตาเป็นประกายเมตตาและทรงภูมิรู้ ใบหน้านิ่งสงบอย่างคนมีคุณธรรม นับไปนับมา เขาก็เป็นน้องคนละแม่กับซูส และก็เป็นไปได้ว่า เพราะเป็นลูกของมหาเทพองค์ก่อน ไครอนจึงเต็มไปด้วยความรู้นับอนันต์ มีความสุขุมรอบคอบจนได้รับเลือกเป็นครู ของเด็กๆ ที่กลายมาเป็นวีรบุรุษหลายคนในตำนานกรีก เช่น จอมพลังเฮอร์คิวลิส, อคิลลิสและอาแจ็กซ์ สองวีรบุรุษแห่งสงครามกรุงทรอย, เจสัน ผู้ออกผจญภัยค้นหาขนแกะทองคำ, เอสคลีเพียส (โรมัน : เอสคิว–ลาพิอัส เทพแห่งการรักษา เป็นลูกของเทพอพอลโล), นายพรานแอคเตออน และวีรบุรุษในตำนานอีกมากมายเลยครับที่ล้วนเป็นลูกศิษย์ของไครอนทั้งนั้น นับได้ว่าไครอนเป็น เซนทอร์ที่ดีซะจนหาที่ติไม่ได้
ไครอนเป็นเซนทอร์หนึ่งเดียวที่เป็นอมตะ แต่แปลกที่เขาตายครับ!
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลั้งของเฮอร์คิวลิส เล่ากันว่าครั้งหนึ่ง เขาไปเยี่ยมเพื่อนเซนทอร์ ซึ่งก็คือโฟลัส (ไครอนและโฟลัสนับเป็นเซนทอร์ที่ดีกลุ่มน้อยในจำนวนร้อยๆ) แล้วรู้สึกกระหายขึ้นมา จึงขอให้เพื่อนเปิดไวน์ ซึ่งเมรัยเทพไดโอไนซัสส่งมาให้โฟลัสไว้ดื่มแก้กระหายเสียหน่อย ปรากฏว่า ไวน์ถังนี้น่าจะพิเศษจริงเสียด้วย กลิ่นหอมของมันจึงฟุ้งไปไกล บรรดาเซนทอร์อันธพาลได้กลิ่นเข้าก็อยากจะดื่มบ้าง เลยควบกันมาเป็นฝูงหมายจะเข้ามารุมไวน์ถังนั้น เฮอร์คิวลิสต้องเข้าห้าม ปราม แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หนักเข้าเลยกลายเป็นตะลุมบอน
เฮอร์คิวลิสต่อสู้กับเซนทอร์ทั้งฝูงอย่างถึงพริกถึงขิง ในที่สุดเขาคว้าคันศรขึ้นลูกศรจุ่มพิษของไฮดรา งูยักษ์อสุรกายหลายหัว ยิงเข้าใส่เซนทอร์ฝูงนั้น แต่มันพลาดเป้าเดิมซึ่งเฮอร์คิวลิสหมายหัวไว้ ลูกศรพุ่งเข้าหาไครอน ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี ไครอนบาดเจ็บสาหัสและเจ็บปวดทรมาน พิษไฮดราบนลูกศรทำให้กลายเป็นบาดแผลที่รักษาไม่ได้ จะตายก็ไม่ตาย ต้องทนทรมานอยู่อย่างนั้นเพราะความเป็นอมตะ
เฮอร์คิวลิส พยายามหาทางไถ่โทษความพลาดพลั้ง แสนสงสารไครอนแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ในที่สุดเขานึกได้ว่าตอนนั้นยังมีเทพโพรมิธิอัสที่ถูกเทวทัณฑ์เพราะนำความรู้และไฟมาให้มนุษย์ยังรับโทษถูกนกอินทรีจิกกินตับทุกวันโดยที่ไม่ตาย แล้วตับก็งอกใหม่ทุกวันเพื่อรับทัณฑ์วนเวียนอยู่เช่นนั้น โพรมิธิอัสจะรอดได้ก็ต้องมีใครอาสามาเป็นตัวตายตัวแทน เฮอร์คิวลิสเกิดปิ๊งไอเดียที่จะจบเรื่องของคนทั้งสองในทีเดียว เขารู้ว่าถ้าเปลี่ยนตัวเป็นไครอน ซูสจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างแน่นอนเฮอร์คิวลิสจึงขอให้ไครอนมารับโทษแทนโพรมิธิอัส
เฮอร์คิวลิสกล่าวว่า แทนที่จะทนทรมานทั้งคู่ ก็ทรมานเสียคนเดียวพอ ไครอนก็ตกลงออกปากรับทัณฑ์แทนโพรมิธิอัส แต่พอนกอินทรีจะโฉบลงมากินตับไครอนแทนกินตับโพรมิธิอัส เฮอร์คิวลิสก็ยิงนกอินทรีตัวนั้นด้วยศรเสียด่าวดิ้น ที่เพิ่งยิงเอาตอนนี้ก็เพราะตามเทวบัญชานั้นไม่ให้ใครช่วยเหลือโพรมิธิอัสจากการโดนลงทัณฑ์ แต่ในตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนมาเป็นการช่วยไครอน ไม่ได้ช่วยโพรมิธิอัสเสียหน่อย จึงไม่ผิดต่อเทวบัญชา
ส่วนไครอนก็ยังทนทุกข์ทรมาณเพราะพิษบาดแผลอยู่เช่นเดิม ซูสสงสารมาก ไม่อยากให้เขาเจ็บไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น จึงบันดาลให้เขาตายได้ วิญญาณ ของไครอนลงไปอยู่ปรโลก แต่ไม่นานซูสก็ตามไปนำเขาขึ้นไปไว้ในท้องฟ้า กลายเป็นเจ้าราศีธนู
อิคซิออนถูกลงทัณฑ์ด้วยกงล้อเพลิง
ในตำนานกรีกยังเพิ่มพี่น้องให้แก่ไครอนอีก 2 ตัว เป็นเซนทอร์น้ำ หรือ ถ้าจะให้ถูกที่สุดก็ต้องว่าเป็นเซนทอร์ทะเล เรียกว่า อิคธิโอเซนทอร์ Ichthyocentaurs เป็นลูกของโครนัสกับนางนิมฟ์ฟีไลราเช่นเดียวกับไครอน อิคธิโอเซนทอร์รูปร่างแปลกกว่าเซนทอร์ทั่วไปตรงที่ นอกจากครึ่งบนเป็นผู้ชาย ครึ่งร่างเป็นม้าแล้ว ขาม้ายังมีแค่สองขาหน้า ส่วนด้านหลังเป็นปลา โดยมีอยู่สองตัวคือ ไบธอส Bythos และ แอฟรอส Aphros มีความรู้มากมายเช่นเดียวกับไครอน
อิคธิโอเซนทอร์ปรากฏตัวอยู่ในงานศิลปะของตะวันตกมากมาย แต่ไม่มีตำนานกล่าวถึง ปกติจะเห็นว่าตัวอิคธิโอเซนทอร์นี้จะเริงคลื่นอยู่ข้างราชรถโพไซดอนนั่นละ