ตำนานม้ายูนิคอร์น
สัตว์แปลกประหลาดตัวนี้ดูเหมือนเป็นสัตว์พิศวงจับจินตนาการคนทั่วโลกในบัดนี้ไปเสียแล้วนั่นคือ ยูนิคอร์น (Unicorn) เป็นม้าในตำนาน และ ยังนับกันว่ามันเป็นม้าที่สวยงามที่สุดอีกด้วย มันจะปรากฏในตำนานซึ่งกล่าวว่าน่าจะอยู่แถบป่าตอนเหนือของยุโรปทั่วไปหมด ยูนิคอร์น Unicorn เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่ทำให้มันงดงามเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดเห็นทีว่าน่าจะเป็น “เขา” ของยูนิคอร์นนั่นเอง ซึ่งมีลักษณะบิดเป็นเกลียวงอกมากลางหน้าผากเขาเดียว ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อ ยูนิคอร์น ซึ่งแปลว่า เขาเดียว ลักษณะอันมีเสน่ห์นี้ละครับ ทำให้เจ้าเมืองหรือขุนนางสมัยกลางนิยมเอารูปลักษณ์ไปเป็นตราเมือง หรือตราตระกูลเสียเลย
ว่ากันว่ายูนิคอร์นมีฝีเท้าเบากริบ จึงไม่มีใครเคยเห็นรอยเท้าของมันแม้แต่ในที่ลุ่มชื้นแฉะ และลักษณะแปลกอย่างหนึ่งคือมันเป็นสัตว์รักสันโดษผิดกับสัตว์กีบทั้งหมดในโลก แต่ละตัวจะเลือกอยู่โดดเดี่ยวไม่รวมฝูงในป่าอันห่างไกล เว้นแต่ตอนจับคู่กันเท่านั้น เรียกว่าเมื่อความสัมพันธ์อันหวานชื่นผ่านไป แต่ละตัวก็จะแยกไปตามทาง ลูกม้าเกิดใหม่ยังไม่มีเขางอก และจะอยู่กับแม่ของมันจนเขางอกยาวเต็มที่จึงจะแยกไปใช้ชีวิตสันโดษตามสายเลือด แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่บางตำนานเล่าไว้แตกต่าง นั่นคือมันอาจอยู่รวมกันเป็นฝูง ฝูงหนึ่งมี 4-5 ตัว แต่จะมีตัวที่แก่ที่สุดเป็นจ่าฝูง
ความนิยมที่มาจากสารทิศ ทำให้เกิดยูนิคอร์นในรูปลักษณ์ที่แปลกไปตามแต่ละถิ่นที่ แต่รวมแล้วทั้งหมดนั้นจะมีหัวและคอเหมือนม้าทั่วไป ขาของยูนิคอร์นอาจเป็นขาของกวางแอนติโลป หางก็อาจจะเป็นได้ทั้งของม้าและสิงโต มีเคราแพะ ส่วนลักษณะเด่นที่สุดของมันเหมือนกันหมด คือเป็นเขายาวแหลมบิดเป็นเกลียวงอกออกมาจากหน้าผาก
พรมแขวนผนังสมัยศตวรรษที่ 15 ทอเป็นรูปสตรีสูงศักดิ์และยูนิคอร์น.
เขาเดียวของยูนิคอร์นนั่นนับว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีบันทึกไว้เลยทีเดียว ยิ่งบวกเข้า กับ นิสัยเจ้าอารมณ์ และ ก้าวร้าวดุร้ายของตัวยูนิคอร์นมันด้วยแล้วนตั่น ขนาดช้างเองเมื่อได้เจอยูนิคอร์นเข้ายังต้องเบนหัวหลบ ยูนิคอร์นเมื่อโตเต็มที่จะเป็นสัตว์วิ่งเร็วที่สุดในโลก ตัวผู้จะปกป้องอาณาเขตของตัวมันด้วยความดุดัน สัตว์เพียงอย่างเดียวที่เข้าไปอยู่ในอาณาเขตของยูนิคอร์นได้คือสิงโต เพราะมันเป็นสัตว์กินเนื้อ ย่อมไม่แย่งอาหารของเจ้าเขาเดียวแน่นอน และสิงโตก็ฉลาดพอที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้ายูนิคอร์นเพราะเขาแหลมที่น่าสะพรึงกลัวอันนั้น
แต่เขาของมันนี้ นอกจากมีไว้ป้องกันตัวซึ่งเป็นคุณอนันต์กับมันแล้ว ก็มีโทษมหันต์ตามเป็นเงาไปด้วยครับ เนื่องจากมนุษย์ (ในตำนาน) ไปพบว่าเขาของยูนิคอร์นมีคุณสมบัติในการดูดยาพิษต่างๆได้ ถ้าไวน์ผสมยาพิษถูกเทลงในถ้วยที่มีเขาของยูนิคอร์นประกอบอยู่มันจะทำหน้าที่ดูดพิษต่างๆไปสิ้น ทำให้ไวน์มีพิษกลายเป็นไวน์ธรรมดา ดังนั้น บรรดาผู้นำในโลกโบราณจึงหาทางจัดทำจานและเครื่องประกอบในการกินด้วยเขาของตัวยูนิคอร์นทั้งสิ้น ความหวาดกลัวต่อความตายที่ผู้อื่นจะหยิบยื่นมาให้ ทำให้บรรดาผู้นำเหล่านี้ ไม่ว่าเจ้าต่างแดน จักรพรรดิ หรือพระสันตะปาปา ให้สินจ้างรางวัลจำนวนมหาศาลแก่พรานล่าเขาตัวยูนิคอร์น ก็เพราะต้องการเอาเขาของมันมาประดับจานอาหารของตน รางวัลล่อใจจำนวนมหาศาลนี้ละ ทำให้เกิดการล่ายูนิคอร์นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เขายูนิคอร์นกลายเป็นของมีค่ามากกว่าทองคำ และก็ทำ ให้เกิดการหลอกลวง ต้มตุ๋นเป็นขบวนการใหญ่
เหล่าพรานออกตามหายูนิคอร์น.
ยูนิคอร์นเป็นสัตว์ฉลาด สามารถหยั่งใจคน ถ้าไม่ถูกฆ่ามันจะมีอายุยืนได้หลายร้อยปี นอกจากเขาของมันแล้ว ของที่มีคุณวิเศษอีกอย่างของยูนิคอร์นคือ “เลือด” ถ้ายูนิคอร์นถูกฆ่าโดยมีการทำให้เลือดของมันไหลนอง ที่ใดก็ตามที่เลือดของมันไปถึงจะนำความตายไปสู่ทุกอย่าง เลือดหยดลงแผ่นดิน ที่ตรงนั้นจะถูกเผาไหม้ พืชหญ้าตายเป็นวง ถ้ากระเซ็นโดนคนคนก็ตาย
ตามตำนานบอกว่า การล่าม้ามีเขาตัวนี้เป็นเรื่องยากยิ่ง นอกจากจะฉลาด มันยังวิ่งเร็วที่สุด และเพื่อป้องกันตัวมันจะแสดงความดุร้ายชนิดที่นึกไม่ถึง จึงไม่มีทางที่จะใช้หอกดาบทำร้ายหรือใช้กับดักจับมันได้หรอกครับ พรานล่าจะต้องใช้วิธีเสี่ยงแบบบ้าบิ่น ใช้ความรู้ว่ายูนิคอร์นหวงถิ่น เสี่ยงล้ำเส้นเข้าไปในอาณาเขตของมันซึ่งๆหน้า ล่อให้มันเห็น มันจะได้เกิดความโมโห ทีนี้พอมันเริ่มวิ่งไล่ พรานก็เผ่นไปยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ ยูนิคอร์นเห็นพรานยืนนิ่งก็พุ่งเข้าแทงอย่างสุดแรงเกิด พรานเห็นเข้าทางแน่ก็เบี่ยงตัวโดดหลบไปข้างๆเร็วที่สุด กำลังแรงมหาศาลบวกกับความเร็วจัดจาก
ยูนิคอร์นต่อสู้กับพรานและหมาล่าเนื้อ.
แรงโมโหนั่นจะทำให้มันยั้งไม่ทัน เขาของยูนิคอร์นที่หมายจะเสียบยอดอกของนายพรานก็กลายเป็นเสียบเข้ากับลำต้นไม้ มันจะถูกจับและถูกฆ่าภายในวินาทีนั้นเอง
พรานล่ายูนิคอร์น.
ฟังแล้วบ้าบิ่นดีนะครับ แทบไม่น่าเชื่อว่าเพื่อแลกกับเงินแล้ว คนเราถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตได้ขนาดนี้ การล่ายูนิคอร์นด้วยวิธีนี้บอกได้คำเดียวว่าหนาว พรานคนไหนประมาณกำลังและความฉลาดของยูนิคอร์นถูกก็รวยไป คนไหนโชคร้ายยูนิคอร์นไหวทันเบี่ยงตัวตาม พรานก็โดนเสียบติดต้นไม้
เรื่องเป็นดังนี้มาจนกระทั่งวันหนึ่ง มีนายพรานล่ายูนิคอร์นคนหนึ่งเกิดนำลูกสาวที่ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ไปด้วย สาวน้อยถูกกันให้ออกไปนั่งเล่นคอยผู้พ่อ แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังเครียดเขม็งพยายามส่ายตามองหาตัวยูนิคอร์นกันอยู่ จู่ๆมันก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ ตรงไปหาสาวน้อยคนนั้นด้วยกิริยาที่นุ่มนวลที่สุด เข้าไปคลอเคลียอยู่กับสาวน้อยคนนั้น ไม่นานก็ยอมลงนอนเกยคางนิ่งอยู่กับตักของหล่อนราวกับถูกมนตร์สะกดลืมสัญชาตญาณป่าสนิท ลืมแม้กระทั่งตัวเอง กลิ่นสาวพรหมจรรย์ราวกับมนตร์สะกดที่ทำให้มันนิ่งงัน แม้เมื่อเขาอันมีค่าถูกเลื่อยออกไปจากตัวทั้งๆที่มันยังอยู่บนตักสาวก็ไม่มีท่าทีต่อต้านรังเกียจแต่อย่างใด อันนี้เป็นทั้งตัวผู้ตัวเมียเชียวนะครับ สาวพรหมจรรย์เลยกลายเป็นจุดอ่อนของยูนิคอร์นตั้งแต่นั้น
หญิงสาวพรหมจรรย์และยูนิคอร์น.
หลังจากนั้นละครับ สาวพรหมจารีก็เลยกลายเป็นนางนกต่อสำคัญในการล่าม้ามีเขา และยูนิคอร์นก็ยังทำเหมือนกับว่าเขาอันแสนมีค่าของมันแทบจะไม่มีความหมายใดเลยเมื่อแลกกับการที่ถูกสาวพรหมจรรย์กอดสักครั้ง น่าสงสารก็ตอนที่เจ้าหล่อนปล่อยออกมาจากอ้อมกอด ยูนิคอร์นก็เหมือนนกปีกหัก ตอนนี้มันไม่มีอาวุธจะไปสู้รบตบมือกับใคร กลายเป็นม้าธรรมดาไปแล้ว
จากเรื่องเล่าในตำนานปรัมปรา ขอตัดสลับกลับมายังโลกของความเป็นจริงกันก่อน อย่างที่ผมเล่าเมื่อกี้ละว่า ชาวฝรั่งในอดีตมีความเชื่อถือเรื่องตัวยูนิคอร์นว่ามีจริงนะครับ หนำซ้ำยังเชื่อต่อไปอีกว่าเขาของมันน่ะเป็นของวิเศษดูดพิษได้ จึงมีความต้องการเขาตัวยูนิคอร์นสูงโดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นปกครอง ในยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการนั่นน่ะครับ อะไรที่อ้างว่าทำจากเขาตัวยูนิคอร์นเป็นขายได้ขายดี
ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : รีวิวเรื่องตำนานสิ่งลี้ลับเรื่องผี
สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : Storyreview