ตำนานการเกิดฟ้าระเบิดทุ่งกุสก้า
ตำนานการเกิดฟ้าระเบิดทุ่งกุสก้า เขตเยนิเซเยสค์ มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่าน พ็อดคาเมนนายา ทุงกุสก้า แถวนั้นไม่มีผู้คนอยู่อาศัย ธรรมชาติแมกไม้สายน้ำ ใครจะไปรู้ ว่าที่ดี ๆ ขนาดนั้น จะถูกผู้บุกรุกจากแดนไกล มาทำให้ราบพนาสูญ มิติที่ 6 สัปดาห์นี้ เราจะคุณย้อนเวลา กลับไปพบกับเหตุการณ์ระเบิดแห่งทุงกุสก้า การบุกรุกจากนอกพิภพของจริง ที่ได้ทิ้งร่องรอยปริศนา มาจนถึงปัจจุบัน เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนหน้านั้น ที่นั่นเคยเผชิญกับสิ่งใด วิจารณญาณมาพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อม จงมาดูกันต่อดีกว่าว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ มันคืออะไรกันแน่ ตามเวลาท้องถิ่น ประมาณ เจ็ดนาฬิกา สิบเจ็ดนาที หากอ้างอิงตามปฏิทินมาตรฐาน มันจะตรงกับวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1908 และจะตรงกับวันที่ 17 มิถุนายน เมื่อเทียบกับปฏิทินท้องถิ่นรัสเซีย เรื่องราวเกิดขึ้นที่นั่น เขตเยนิเซเยสค์ จากปากคำคนพื้นที่ พวกเขาสังเกตเห็นบางสิ่ง ลำแสงสีน้ำเงิน มันสุกสว่าง สว่างเกือบเท่าดวงอาทิตย์ เคลื่อนผ่านท้องฟ้า ยาวนานประมาณเกือบสิบนาที เกิดแสงวาบสว่างไปทั่วพื้นที่ ตามด้วยเสียงสนั่นราวกับปืนใหญ่ หลายคนรายงาน จุดกำเนิดเสียงดังกล่าว มันมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตามด้วยแรง
“งูยักษ์คองโก”เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
“งูยักษ์คองโก”เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง นาวาเอกเรมี ทางนายทหารท่านนี้ อาศัยช่วงเวลา ที่ ฮ.ของเขาบินเข้าไปใกล้มัน ถ่ายภาพของมันเอาไว้ เขาระบุลักษณะของมันเพิ่มเติมว่า มันมีลำตัวสีน้ำตาลอมเขียว หน้าท้องสีขาว ความยาวกว่า 15 เมตร ยาวมากเลยนะครับ น่าจะยาวกว่างูจงอางบ้านเราซักสองเท่า หัวของมันขนาดกว้างหกสิบเซนติเมตร ขากรรไกรกว้าง 90 เซนติเมตร เรียกได้ว่าใหญ่มากพอ ที่จะโอบรถบัสทั้งคันได้ ซึ่งท้ายบทความ ได้ให้ข้อสรุปว่า ไม่มีใครรู้ ว่ามันเป็นงูสายพันธุ์ใดกันแน่ เพราะตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่เคยมีใครพบงูตัวนี้อีกเลย บางคนเชื่อว่า งูที่นายทหารเรมีพบ น่าจะเป็นสายพันธุ์ ไททันโอโบอา งู่ที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก ที่ใหญ่กว่าพันธุ์อนาคอนด้า ระดับหลายเท่าตัว ตรงนี้ขอเพิ่มให้นิดนึงครับ ไททันโอโบอาเนี่ย มันเป็นงูสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์ มีขนาดประมาณในเรื่องเล่านี้ครับ เพียงแต่ มันสูญพันธุ์ไปกว่าสิบล้านปีแล้ว หมายความว่า งูในเรื่องเล่า อาจใช่หรือไม่ใช่ไททันโอโบอาก็ได้นะครับ ข้อมูลนี้ของไททันโอโบอานี้ ผู้บรรยายได้มาจาก มหาวิทยาลัยโทรอนโต คณะวิทยาศาสตร์สาขาบรรพชีวินวิทยานะครับ โดยเว็บแรกที่น่าจะเล่าเรื่องนี
ตำนานสุดยอดไซอิ๋ว
ตำนานสุดยอดไซอิ๋ว เห้งเจีย หรือ หงอคง เป็นเทพ ตามพงศาวดารจีนเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งกล่าวถึงลิงตัวหนึ่งที่เกิดจากหิน บนยอดภูเขา “จิ่วหัวซัน” มีความเก่งกล้าสามารถมาก มีอาวุธวิเศษในมือ คือกระบองที่ยืดได้ จนไปถึงเทียมฟ้าสวรรค์ และ สามารถหดได้ เหลือเพียงอันเล็กๆ ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ และยังมีพาหนะคู่ใจคือก้อนเมฆ “คินตอน” หงอคงมีนิสัยพาลเกเร วันหนึ่งขึ้นไปอาละวาดบนสวรรค์ สร้างความปั่นป่วนแก่บรรดาเทพเจ้าบนสวรรค์เป็นอย่างมาก เง็กเซียนฮ่องเต้เห็นว่าหงอคงคงจะว่างเกินไป จึงมอบหมายหน้าที่ให้เป็นคนดูแลม้าในสวรรค์ หงอคงโกรธมาก ที่เห็นว่าตนได้เพียงตำแหน่งเล็กๆ จึงได้ฆ่าม้าตายหมดทุกตัว เง็กเซียนฮ่องเต้พิโรธมาก จึงรับสั่งให้ขุนพลสวรรค์ มาตามจับตัวเห้งเจียไปลงโทษ แม้กระทั่ง นาจา ผู้เก่งกาจของขุนพลสวรรค์ก็ยัง ไม่สามารถเอาชนะหงอคงได้ เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องยอมอ่อนข้อให้ และยกตำแหน่งให้เป็น ฉีเทียนไต่เสี่ย หรือ ผู้ยิ่งใหญ่เท่าฟ้า มีหน้าที่ดูแล สวนลูกท้อบนสวรรค์ ในที่สุดหงอคงก็ป่วนสวรรค์ จนวุ่นวายอีกครั้ง โดยการแอบกินลูกท้อสุกจนหมดสวน ดื่มสุราสวรรค์ ขโมยยาอายุวัฒนะของเทพเจ้าดาวพระศุกร์กินจนหมดห้อง เมื่ออับจนห
วัดนางพญา
วัดนางพญา วัดเก่าแก่ ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา วัดนี้ตั้งอยู่ติดกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และวัดราชบูรณะ แต่เดิมวัดนางพญาและวัดราชบูรณะมีอาณาเขตติดต่อกัน แต่พอมีการสร้างสะพานสมเด็จพระนเรศวรและสร้างถนนตัดผ่าน จึงแยกวัดนางพญาและวัดราชบูรณะอยู่กันคนละฝั่งถนน วัดนางพญาจึงเหลืออาณาเขตเล็กๆ เท่านั้น การได้ชื่อว่า “วัดนางพญา”ชื่อของ พระนางพญา น่าจะมาจากสถานที่ที่ค้นพบนั่นเอง วัดนางพญานี้สันนิษฐานว่า ผู้สร้างพระนางพญาคือ พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระ มเหสีของพระมหาธรรมราชา และทรงเป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงสร้างพระนางพญาขึ้นในคราวบูรณะปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะ ราวปี พ.ศ. 2090 – 2100 ขณะนั้นพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวง และพระองค์ดำรงพระอิสริยยศเป็นแม่เมืองสองแคว และพระมหาธรรมราชาทรงพระอิสริยยศที่ พระอุปราช แห่งแผ่นดินพระมหาจักรพรรดิ กรุงศรีอยุธยา พระนางพญา ได้รับอิทธิพลทางพุทธศิลปะมาจากสกุลช่างสุโขทัยในพระราชสำนักโดยตรง ด้วยเมืองพิษณุโลกและสุโขทัยมีความใกล้ชิดกันมาตั้งแต่ราชวงศ์พระร่วงเป็น ใหญ่ในดินแดนภาคเหนือ พิมพ์ทรงของพระนางพญา เด่นชัดมากหากเปรียบเทียบกับพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ใน