ตำนานกรีกชนเผ่ากินบัว”Lotus eater”
ตำนานกรีกชนเผ่ากินบัว”Lotus eater” ชนเผ่ากินบัว เป็นชนเผ่าหนึ่งที่ปรากฎในตำนานเทพกรีก ที่อยู่อาศัยไม่ค่อยแน่ชัดนักบอกเพียงแต่ว่าอาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่าผลไม้หรือดอกบัวบนเกาะแห่งนี้หากกินเข้าไปจะตกอยู่ภวังค์(เหมือนโดฟยา) หลงลืมแทบทุกสิ่งและอยากกินต่อหากเคยได้กินเข้าไปแล้ว โดยผู้ที่พบชนเผ่านี้เป็นผู้แรกก็คือวีรบุรุษโอดิสซิอุส เรื่องชนเผ่ากินบัวนี้เป็นที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงพอสมควร เพราะต่อมาบิดาแห่งประวัติศาสตร์เฮโรโดตัส ได้ออกค้นคว้าและทำการพิสูจน์ต่างๆ จนพบว่าชนเผ่านี้มีอยู่จริงๆโดยอ้างว่าอยู่ที่ชายฝั่งหนึ่งของประเทศลิเบีย ในตำนานเทพเจ้ากรีกที่บัวเสพ มีการแข่งขันของผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะครอบงำโดยต้นไม้บัวพืชที่มีตัวตนพฤกษศาสตร์คือความไม่แน่นอน ผลไม้ดอกบัวและดอกไม้เป็นอาหารหลักของเกาะและเป็นยาเสพติดทำให้คนที่อาศัยอยู่ในการนอนในที่เงียบสงบไม่แยแส หลังจากที่พวกเขากินดอกบัวแล้ว พวกเขาจะลืมบ้านและคนรักของพวกเขา และเพียงแต่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนผู้กินดอกบัวของพวกเขา บรรดาผู้ที่กินพืชนั้นไม่เคยสนใจที่จะรายงานและไม่กลับมา ในหนังสือ Odyssey เล่มที่ 9 โอดิสสิอุสบอกว่
ไม้พญางิ้วดำของขลังมนต์ดำเขมร
ไม้พญางิ้วดำของขลังมนต์ดำเขมร วิธีการสังเกตดูไม้งิ้วดำ ไม้พญางิ้วดำ และเปรียบเทียบกับไม้ดำดง ไม้มะเกลือให้ดูตามลักษณะดังต่อไปนี้ 1.ไม้พญางิ้วดำ ไม้งิ้วดำ – เป็นไม้ที่มีน้ำหนัก จับแล้วจะรู้สึกเบา แต่ถ้าเอาไปลอยน้ำไม้จะจม – มีสีดำที่สนิท ทั้งที่กลางแดดและในร่ม เนื้อไม้จะเป็นเงามัน ดำแบบเงา – ถ้าไม้เกิดในป่าที่มีหินปูน ไม้จะมีหินปูน(สีขาว)แทรกอยู่ในเนื้อไม้ – ไม่มีเสี้ยน เนื้อไม้จะละเอียดมาก – ขี้เลือยจะออกสีดำอมม่วง – เวลาขัดแล้วกลิ่นฉุนเหมือนพริกไทย – ฝุ่นสีดำสนิท – กลิ่นและรสจะคล้ายเครื่องเทศ 2.ไม้ดำดง – เป็นไม้สีดำเหมือนกันแต่เนื้อไม้จะออกสีม่วงหรือสีน้ำตาลดำ – สีดำไม่สนิท – มีเสี้ยน หรือ เสี้ยนจะหยาบกว่า – ขี้เลื่อยจะออกม่วงน้ำเงินหรือสีน้ำตาลดำ – ฝุ่นสีดำไม่สนิท – ต้องแสงแดดจะไม่มันเงา ด้านสนิด 3.ไม้มะเกลือ – เนื้อไม้และขี้ไม้เป็นสีดำอมเขียว – จะแตกสะเก็ดและแข็ง – มีเสี้ยน หรือ เสี้ยนจะหยาบกว่า – ฝุ่นสีดำไม่สนิท – ขี้เลือยจะออกแดงน้ำตาล – จะดำสนิทเฉพาะที่แก่นไม้
โบสถ์แห่งแรกของโลก”GobekliTepe”
โบสถ์แห่งแรกของโลก”GobekliTepe” นักโบราณคดีค้นพบว่าที่โบราณสถาน Göbekli Tepe ในประเทศตุรกีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกสร้างมานานกว่า 11,000 ปีโดยมนุษย์ยุคหิน มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามนุษย์ยุคนั้นมีความรู้ด้านเรขาคณิตดีมากอย่างน่าประหลาดใจ ในอดีตนักโบราณคดี นักมานุษยวิทยา และนักประวัติศาสตร์ทั้งหลาย เคยคิดว่า การปฏิรูปอารยธรรมได้เกิดขึ้น ณ สถานที่หนึ่งเดียวก่อน คือที่ Mesopotamia ซึ่งเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ Tigris กับ Euphrates และอยู่ทางใต้ของอิรักในปัจจุบันจากนั้นอารยธรรมใหม่นี้ก็ได้แพร่สู่อินเดีย ยุโรป จีน ฯลฯ ดังนั้นนักโบราณคดีในอดีตจึงเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศบนโลกได้ผลักดันให้มนุษย์รู้จักทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ แต่การค้นคว้าทางโบราณคดีในปัจจุบัน ได้แสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปด้านอารยธรรมของมนุษย์ได้เกิดขึ้นในหลายสถานที่และในเวลาเดียวกัน แต่ไม่ใช่โดยอิทธิพลของสภาวะอากาศ กลับเป็นโดยอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น นั่นคือ ศาสนา Gobekli Tepe อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ในบริเวณจุดสูงสุดของเทือกเขา ที่อยู่ทางเหนือของเมือง Şanlıurfa จ