เครื่องรางสายเสน่ห์ “อิ่น”
เครื่องรางสายเสน่ห์ “อิ่น” ถ้าหากจะพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางแนวหุ่น หรือ ตุ๊กตา นั่นอยากจะขอเล่าถึงของอีกอย่างหนึ่ง ที่ถือได้ว่า เป็นเครื่องรางฮอตฮิตของคนเหนือล้านนา และเป็นหนึ่งในเครื่องรางที่นิยมทำในรูปแบบตัวตุ๊กตา นั่นก็คือ “อิ่น” หรือ บางแห่งก็ออกเสียงว่า “อิ้น” และ ได้มีบันทึกสืบทอดกันมาว่า แปลว่า “รักมาก” สำหรับในบ้านของเรา “อิ่น” นั่นจัดเป็นเครื่องรางสายเสน่ห์ที่พวกเราทุกคนคงจะคุ้นเคยกันดีแต่ไหนแต่ไร เพราะคนเหนือนั้น นิยมใช้ “อิ่น” ในการเป็นของเสริมเสน่ห์เมตตา เรียกคู่ เรียกรัก รวมทั้งช่วยเรียกเงินทอง คนทำมาค้าขายก็จะนิยมใส่อิ่นเอาไว้ในพกสตางค์ บ้างใช้วางเรียกแขกกันเห็นๆ เรื่องเล่า แม่เคยเล่าเรื่องราวประสบการณ์ว่า สมัยที่ยายเป็นแม่ค้านั่งตลาด ก็จะมีอิ่นประจำตัว เอาไว้เป็นของเรียกคน เรียกแขก ถ้าเปิดกระป๋องใส่สตางค์ จะมีอิ่นตัวเล็กๆ อยู่ในนั้ส่วนพ่อนั่น เป็นปู่อาจารย์ที่อยู่ กับ เรื่องคุณไสยศาสตร์มาแต่เดิมอยู่แล้ว ในหลายๆ ครั้งจึงจะมีคนมาขอให้ “ทำอิ่น” ให้ หรือ บางทีพ่อเองก็ไปได้อิ่นในลักษณะต่างๆ มาจากที่นั่นที่นี่ก็จะเก็บสะสมไว้แต่ความที่เป็นคนใจดีเวลามีคนมาขอก็มักจะยกให้ไ
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ
ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงปู่นาค วัดแจ้ง พระพิมลธรรม วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง) ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 เดือน มกราคม พุทธศักราช 2415 ที่บ้านบางพูน จังหวัดปทุมธานี โยมบิดาชื่อนวล โยมมารดาชื่อเลื่อน เมื่อวันเด็กอายุพอสมควร ได้เรียนหนังสือกับครูฟ้อน พออ่านออกเขียนได้ พออายุได้ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสารพัดช่าง โดยมีเจ้าอธิการหว่าง ธมฺมโชติ เป็นพระอุปัชฌาย์ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนอายุครบบวช เจ้าอธิการหว่างจึงได้พามาถวายพระธรรมวโรดม (แดง) วัดสุทัศน์ (สมณศักดิ์ในสมัยนั้น) เมื่อปีมะโรง พ.ศ.2435 ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดสุทัศน์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (แดง) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมานุสารี (หว่าง) วัดเทียนถวาย ปทุมธานี เป็นพระคู่สวด ได้รับนามฉายาว่า “สุมนนาโค” เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักสมเด็จพระวันรัต (แดง) และในสำนักพระยาธรรมปรีชา (ทิม) จนมีความรู้แตกฉาน เมื่อตอนปีพุทธศักราช 2433 ได้เข้าแปลพระปริยัติธรรมได้เป็นเปรียญ 4 ประโยค ปีพุทธศักราช 2437 ได้เข้าแปลพระปริยัติธรรมได้เปรียญ 6 ประโยค ปีพุทธศักราช 2441 ได้เข้าแปลพระปริยัติธรรม ได้เปรียญ 7 ป
เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน
เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เป็นชื่อที่เรียกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณในอดีตนั่น เนื่องจากบริเวณวัดนั่นจะมีตัวเงินตัวทองอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะ เป็นเขตน้ำกร่อย ชื่อจริงๆ ของวัดคือ “วัดคลองด่าน” และ ที่เป็นทางการจะเรียกว่า ‘วัดมงคลโคธาวาส’ ตั้งอยู่ที่ ตำบล คลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ หลวงพ่อปาน ท่านก็เป็นชาวคลองด่านโดยกำเนิด เกิดขึ้นในปีพุทธศักราช 2370 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 3 บิดา (พ่อ) ชื่อ ปลื้ม มารดา (แม่) ชื่อ ตาล ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อครั้งในอายุ 15 ปี ที่ สำนักวัดอรุณราชวราราม และ ได้อุปสมบท โดยมี พระศรีสากยมุนี เป็นอุปัชฌาย์ ท่านศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานรวมถึงไสยศาสตร์ นอกจากนี้ท่านยังสนใจในกรรมฐานเป็นอย่างมาก ท่านได้รับการถ่ายทอดจากคณาจารย์หลายองค์จนเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะ หลวงปู่แตง เจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา จังหวัด ชลบุรี พระเกจิผู้เก่งกล้าด้านวิปัสสนาธุระ ไสยเวทย์ และมนต์คาถาต่างๆ ก่อนกลับมาวัดมงคลโคธาวาส และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อปาน ที่นับว่าเป็นเครื่องรางยอดนิยมของคนรุ่นเก่า คู่กับเบี้ยแก้หลวงปู