ผีกะความเชื่อผีภาคเหนือ
โดยเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของตำนานผีกะนั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งก็ได้มีชาวบ้านในทางภาคเหนือนั้นในหลายๆกลุ่มก็พูดกันไม่เหมือนกัน ชาวบ้านทางภาคเหนือในบางกลุ่มนั้นก็ได้พูดกันซึ่งก็มีอยู่ตำนานหนึ่งเกี่ยวกับประวัติของพี่กะที่เป็นที่พูดถึงกันเป็นจำนวนค่อนข้างมาก พวกชาวบ้านทางภาคเหนือนั้นได้บอกไว้ว่าผีกะนั้นมีลักษณะรูปร่างที่มีเหมือนกับฝูงของลิงตัวเล็กๆที่หากินกันเป็นฝูง แต่ในลักษณะของลิงที่ว่านั้นก็ไม่ได้จะเหมือนลิงปกติที่เราเห็นกันทั่วไป เพราะแววตาของลิงพวกนั้นจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกับแววตาของสัตว์ มันเหมือนกับแววตาของมนุษย์ที่มีความแค้นอยู่ซึ่งหากชาวบ้านทางภาคเหนือได้เห็นเจ้าลิงพวกนี้แล้วหล่ะก็ ก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าลิงพวกนี้นั้นมีอะไรที่แปลกๆ แต่นอกจากนี้นั้นบางตำนานก็ได้พูดเอาไว้ว่าเกี่ยวกับลักษณะของตำนานของผีกะนั้น จะมีลักษณะที่ไม่ใช่ลิงเลย แต่จะมาปรากฏตัวในลักษณะที่เหมือนกับผีปอบของทางภาคอีสานที่คนไทยส่วนใหญ่มักจะรู้จักกัน ซึ่งเอาจริงๆแล้วนั้นประวัติความเป็นมาของผีกะนั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบมีอยู่หลายตำนานซึ่งแต่ละตำนานนั้นก็มีประวัติความเป็นมาที่มีความแตกต่างกันไป
ผีกะชนิดที่แรกที่มีการพูดถึง
คือวิญญาณที่ชาวบ้านนั้นได้เลี้ยงเอาไว้เพื่อที่จะทำให้ปกปักษ์รักษาหมู่บ้านของพวกเขาให้ไม่เกิดความอันตรายขึ้นมา เพราะในสมัยก่อนนั้นทางหมู่บ้านของทางภาคเหนือก็มักจะมีสิ่งอันตรายเข้ามาสู่หมู่บ้านที่พวกเขาอยู่กันเป็นประจำ ซึ่งชาวบ้านในภาคเหนือนั้นก็เลยที่จะตัดสินใจที่จะเลี้ยงผีชนิดนี้ขึ้นมา ซึ่งก็เชื่อกันว่าผีกะในชนิดแรกนั้นจะมีลักษณะที่เป็นลิงตัวเล็กๆและจะมีอยู่สองตัวด้วยเช่นกัน โดยตัววิญญาณผีกะหรือลิงตัวเล็กๆที่ว่านั้นจะคอยนั่งอยู่ตรงบริเวณไหล่ของเจ้าของที่เลี้ยงพวกมันเอาไว้ โดยผีกะชนิดนี้นั้นมันจะคอยนั่งอยู่ตรงไหนของเจ้าของมันเพื่อที่จะคอยเลียตรงบริเวณใบหน้าของเจ้าของพวกมัน การที่มันทำแบบนี้ก็เพราะว่าเวลามีใครได้เห็นหรือพูดคุยกับเจ้าของของพวกมันแล้วหล่ะก็ มันจะทำให้พวกเขาเหล่านั้นที่ได้มาพูดคุยกับเจ้าของที่โดนมันเลียหน้าแล้วนั้น จะรู้สึกหลงใหลและเคลิ้มไปกับการพูดจาและหน้าตาของเจ้าของพวกมัน แม้ว่าเจ้าของนั้นจะมีหน้าตาที่ไม่ดีหรือขี้เหร่ก็ตามแต่หากพวกเขาเหล่านั้นได้เลี้ยงผีกะชนิดนี้แล้วหล่ะก็ พวกเขาเหล่านั้นก็จะดูดีขึ้นมาในสายตาของคนอื่นในทันทีด้วยผลของการดูแลผีกะชนิดนี้นั่นเอง โดยมีการพูดเกี่ยวกับผีกะชนิดแรกกันไว้ว่า ผู้ที่เลี้ยงผีกะชนิดนี้มักจะเป็นผู้ที่ต้องการที่จะทำงานเกี่ยวกับการใช้หน้าตาของพวกเขาให้เป็นประโยชน์หรือที่เรียกกันว่านักแสดงหรืออาจจะเป็นพระเอกหรือนางเอกลิเกในสมัยก่อนด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาเชื่อกันว่าหลังจากที่ได้เลี้ยงเจ้าผีกะแล้วพวกเขาก็จะมีใบหน้าที่ดูดีกว่าคนอื่นๆ แต่ในทางกลับกันนั้น หากพวกเขาเลี้ยงผีกะได้ไม่ดีเท่าที่ควรพวกเขาเหล่านั้นก็จะโดนผีกะทำร้ายกลับด้วยเช่นกัน โดยการผีกะเหล่านั้นทำลายใบหน้าของพวกเขา หรือก็คือการทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีใบหน้าที่อัปลักษณ์และขี้เหร่ยิ่งกว่าเดิม มันจะทำจนกว่าใบหน้าของพวกเขาน่าเกลียดจนสุดท้ายแล้วนั้นไม่มีใครในหมู่บ้านอยากจะเข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ
ส่วนผีกะชนิดอื่นๆนั้นที่มีการพูดถึงก็คือจะเป็นผีกะทีถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อที่จะให้พวกผีกะนั้นปกป้องวงศ์ตระกูลของผู้ที่เลี้ยง ผู้ที่เป็นเจ้าของของมันหรือที่ชาวภาคเหนือเรียกกันว่า “ผีกะตะกูล” ผู้ที่เป็นเจ้าของนั้นพวกเขามักจะเลี้ยงผีกะชนิดนี้ไว้ภายในหม้อที่เป็นเหมือนกับหม้ออาคม แล้วพวกเขาจะนำหม้อที่มีผีกะนั้นไว้ตรงบริเวณใต้ถุนบ้านโดยจะมีการเซ่นไหว้ด้วยข้าวปลาอาหาร โดยที่ห้ามทำให้ผีกะเรานั้นอดอยากเป็นอันขาด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วผีกะก็จะกลับมาทำร้ายพวกเขาเช่นกัน การทำร้ายของผีกะชนิดนี้ก็คือการที่พวกมันจะเข้าไปสิงสู่ผู้คนที่อยู่ในตระกูลของเจ้าของมันและทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป ซึ่งผีกะชนิดนี้นั้นหากเจ้าของของพวกมันเลี้ยงดูพวกมันเป็นอย่างดี พวกมันก็จะให้คุณเป็นอย่างมาก มันจะทำให้การทำมาค้าขายของเจ้าของนั้นดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปและทำให้ครอบครัวของเจ้าของนั้นมีความเจริญรุ่งเรือง หากบ้านไหนทำนาไว้อยู่ก็จะมีผลผลิตที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม แม้แต่ในช่วงเวลาที่เป็นหน้าแล้ง นาของพวกเขาก็ยังคงขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ เรื่องแปลกทั่วโลก 2023 บอกเล่าเรื่องราว
สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : 10 เรื่องในตำนาน