STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

ตำนานพญาครุฑ

ตำนานพญาครุฑ

ครุฑ หรือ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า สุบรรณ หมายถึง ขนวิเศษ แต่เดิมครุฑมีนามว่า เวนไตย เกิดจากนางวินตา ครุฑแต่กำเนิดเกิดมามีกำลังมหาศาล มีรัศมีสีทองสว่างไสวกว่าพระอาทิตย์นับร้อยเท่า มีศรีษะ จะงอยปาก และปีกเหมือนนกอินทรี แต่แขนขา เหมือนมนุษย์

พละกำลังอิทธิฤทธิ์ของพญาครุฑ

  เมื่อครั้นพญาเวนไตยเติบใหญ่ ทราบว่ามารดาของตนนั้นตกเป็นทาสของกัทรุ เพราะแพ้อุบายเมื่อครั้งทายสีม้าเทียมรถทรงของพระอาทิตย์ในอดีต โดยนางกัทรุใช้อุบายให้นาคผู้เป็นลูกไปพ่นพิษรถม้า เพื่อให้สีขาวของรถม้ากลายเป็นสีดำ พญาเวนไตยจึงขอไถ่ตัวมารดาของตนจากเหล่านาค แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์เก็บรักษาไว้บนสวรรค์มาให้พวกนาค ด้วยความที่พญาเวนไตยอยากจะช่วยมารดา จึงได้ตกลงเดินทางไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์ ระหว่างเดินทางหิวก็ได้จับคนป่าเถื่อนกินเป็นอาหาร และได้พบกับเต่าและช้างตัวใหญ่ขนาดมหึมา พญาเวนไตยคาบทั้งคู่บินไปเกาะกิ่งไทรที่มีความยาวหนึ่งร้อยโยชน์ แต่กิ่งไกรรับน้ำหนักไม่ไหว ก่อนที่กิ่งไทรจะหักลงมา เหลือบไปเห็นพวก พาลขิยะ “ฤาษีแคระ” ขนาดเท่านิ้วมือจึงเอาเท้าจับกิ่งไทรบินพาไปวางไว้ที่เขาเหมกูฏ บรรดาฤๅษีเห็นพญานกตนนี้มีจิตใจงดงามยิ่งนัก จึงให้ชื่อว่า “ครุฑ” แปลว่าผู้รับภาระอันหนัก และยังให้พรว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดให้สำเร็จตามประสงค์ มีพละกำลังมหาศาล ไม่มีผู้ใดต้านทานได้

นารายณ์ประทานพร

  เมื่อพญาครุฑบินมาถึงเทวโลก ที่ซึ่งเป็นที่ประทับของพระรายณ์ พญาครุฑได้นำน้ำอมฤตออกมาเมื่อพระนารายณ์เสด็จกลับมาพบ ได้เกิดการสู้รบกัน แต่ต่างฝ่ายไม่สามารถเอาชนะกันได้ พอทราบว่าพญาครุฑต้องการนำน้ำอมฤตเพื่อไปช่วยไถ่ตัวมารดาที่ตกเป็นทาส ไม่ได้ต้องการนำไปดื่มเอง จึงยอมมอบให้ พร้อมประทานพรให้เป็นอมตะแม้จะไม่ได้ดื่มน้ำอมฤตก็ตาม และอนุญาตให้จับนาคกินเป็นอาหารได้ พญาครุฑได้ให้สัจจะแก่พระนารายณ์ว่า ขอเป็นพาหนะให้พระวิษณุในเวลาเสด็จไปยังสถานที่ต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ พญาครุฑจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า สุบรรณ ซึ่งหมายถึง ขนวิเศษ เป็นที่มาของความหมายที่ว่า “นารายณ์ทรงสุบรรณ”