เรื่องผี เรื่องเล่าน่ากลัว ตำนานความน่ากลัว
เรื่องผี คือ นักจิตวิทยาส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ประสาทหลอนหรือประสาทหลอนคือการตีความสิ่งเร้าภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน สังเกตเวลาเจอผีหรือเคยบอกไปว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นผี 100% แต่มักจะอยู่ในที่สลัวๆ มืดๆ สิ่งเร้าคลุมเครือมาก ผู้คนตีความสิ่งเร้าโดยอัตโนมัติ ตีความสิ่งที่เราเชื่อและทำด้วยประสบการณ์ จะเห็นได้ว่า “ผีหลอก” มักเป็นไปตามเรื่องราวที่ปรากฏในสังคม ผีไทย จีน ผีฝรั่ง มีความแตกต่างกัน เพราะเรื่องราวของแต่ละสังคมและบริบทต่างกัน เช่น ในแอฟริกา แม้มีต้นกล้วยมากแต่ผีไม่มี เพราะแถบนั้นเขาไม่มีเรื่องเล่า แต่นกพิทานี่ เมืองไทยใส่สไบอาจจะเห็นในดงกล้วยตอนกลางคืน ใบตองก็ประมาณเดียวกับสไบ การอนุญาตให้เราตีความด้วยวิธีนี้อาจเป็นไปได้ว่าภาพที่เราสร้างขึ้นเมื่อสิ่งเร้านั้นคลุมเครือมากนั้นสอดคล้องกับความรู้ของเรา
คนกลัวผี ทำไมถึงเจอผี
มีคำอธิบายของการเสพติดสื่อเชิงลบ เรื่องผีไม่ใช่เรื่องสวยหรู เหตุผลที่อาจอธิบายว่าทำไมคนชอบฟังเรื่องผีคือ 1. การแสวงหาอารมณ์ หรือหากมนุษย์ยังคงรู้สึกเบื่อหน่ายจากความรู้สึกหวาดกลัว (ความรู้สึกแสวงหา) แน่นอนว่ามีวิธีแก้ความเบื่อได้หลายวิธี ชอบฟังเรื่องผีๆ ตื่นเต้น คาดไม่ถึง นี่แหละเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งเมื่อได้ฟัง แม้ว่าจะสร้างความรู้สึกหวาดกลัว มีคำอธิบายทางชีววิทยาว่าร่างกายของเราหลั่งสารอะดรีนาลีนเมื่อเราทั้งกลัวและตื่นเต้น ร่างกายจะหลั่งสารโดพามีนออกมาหลังจากที่เรากลัวไปสักระยะหนึ่ง ทำให้เราอารมณ์ดี มีความสุข เสพติดเรื่องผีๆ นี่คือการเรียนรู้
2.ระบาย มนุษย์มีความรู้สึก ความก้าวร้าว และความกลัวมากมาย และเราจำเป็นต้องระบายมันออกมา มันให้เหตุผลว่ามนุษย์สร้างความกลัวและการได้ยินเรื่องผีเป็นเหมือนวิธีระบายพวกเขา ถ้ามองในแง่จิตวิเคราะห์ก็เหมือนเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันของเรา ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเสพเรื่องราวแย่ๆ เราจะเปรียบเทียบกับชีวิตปัจจุบันของเรา เรื่องผีเป็นไปในทางลบ นี่คือเรื่องราวที่มีสีที่น่าสลดใจ เมื่อเราบริโภคสิ่งที่มีฐานะยากจน จึงเปรียบว่า เราดีกว่าที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้น ก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีได้ในระดับหนึ่ง
สุดท้ายนี้ 3. การเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ทางสังคม บางครั้ง เราอาจไม่ได้ฟังเรื่องผีเพียงอย่างเดียว อาจจะฟังเป็นกลุ่ม สมัยก่อน 10-20 ปีที่แล้ว เราชอบฟังเรื่องผีๆ ผีๆ แต่ส่วนมากไม่ได้ฟังคนเดียว มันจะแบ่งปันกับเพื่อน ๆ ดังนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมทางสังคม และหากมองในมุมของพิธีกรรมทางสังคม (Ritual) ก็อาจเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งในการเอาชนะความกลัวของวัยรุ่นชาย ใครก็ตามที่ทำตัวมากหรือน้อยแต่กลัวมากมักจะถูกรังแกหรือล้อเลียน นี่คือการหล่อหลอมทางสังคมรูปแบบหนึ่ง
ติดตามข่าวสาร : เรื่องลี้ลับ