เทพเจ้าแมว”Bastet”
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/759AC8F0-24B8-4A2E-B8A5-D1C1144199F3-1.webp)
เทวีบัสเตต เป็นเทพเจ้าที่ชาวอียิปต์นับถือ ความเชื่อกล่าวไว้ว่า นอกจากแมวจะเป็นสัตว์ที่มีไว้จับหนูในโรงนาแล้ว แมวยังทำหน้าที่จับหนูบนเรือสินค้าได้ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นความเชื่อขึ้นมาว่า เมื่อเรือเดินสินค้าเข้าเทียบท่า แมวจึงเดินลงไปจากเรือ และไม่ได้กลับขึ้นเรืออีก ซึ่งเป็นผลให้แมวถูกขนายพันธุ์ไปทั่วโลกได้นั่นเอง
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/qea4ilc1egS28E0d1vv-o.jpg)
ชาวอียิปต์โบราณนั้นนับถือแมวเป็นอย่างมาก หากผู้ใดฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก และถือว่าแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าของอียิปต์โบราณ หากบ้านใดมีแมวเสียชีวิตในบ้าน จะต้องนำเอาศพแมวเหล่านั้นไปทำมัมมี่ด้วย (ความเชื่อเดิมกล่าวไว้ว่า มัมมี่คนจะทำกับบุคคลที่เป็นราชวงศ์และขุนนางเท่านั้น) ซึ่งหากคุณต้องการเห็นมัมมี่แมว สามารถหาดูได้ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆในประเทศอังกฤษ
ด้วยความเชื่อดังกล่าวนี้ จึงทำให้บุคคลที่ต้องการยึดอำนาจการปกครองอาณาจักรอียิปต์โบราณ ออกอุบาย “อุ้มแมวไปรบ” ซึ่งส่งผลให้พวกทหารอียิปต์ไม่สามารถสู้ศัตรูได้ (แมวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรบ แต่อียิปต์ไม่ได้ล่มสลายเพราะแมว) และแม้ว่าอียิปต์โบราณจะหมดยุคไปแล้ว แต่ชาวอียิปต์ในสมัยก่อนก็ยังคงนับถือบูชาแมวเช่นเดิม ถึงขนาดที่หากชาวโรมันคนไหนฆ่าแมว ก็ยังต้องถูกพวกอียิปต์ลงทัณฑ์เลย
เวลาผ่านไปจนล่วงเข้าสู่ยุคกลางในยุโรป ก็เกิดมีความเชื่อเรื่องแม่มดและความชั่วร้ายต่างๆเข้ามา ชาวยุโรปในยุคที่ว่านี้กล่าวอ้างว่า แมวโดยเฉพาะแมวดำเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด เพราะฉะนั้น หากบุคคลใดเลี้ยงแมว ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดร้าย และหากบุคคลนั้นเป็นคนแก่ด้วยแล้ว บุคคลพวกนี้ก็มักจะโดนทำโทษโดยการเผาทั้งเป็นร่วมกันทั้งคนและแมว เมื่อแมวถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้หนูมีปริมาณมากขึ้น และเกิดเป็นโรคระบาดอย่างหนักในยุโรปสมัยนั้น
ส่วนชาวจีนก็เชื่อกันว่า แมวเป็นสัตว์นำโชคเช่นกัน เนื่องจากเมื่อแมวเข้ามาอยู่ในบ้านของมนุษย์คนใด ก็ต่อเมื่อมันพอใจที่จะอยู่เท่านั้น และเมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้านกับเจ้าของบ้านแล้ว ก็มักจะนำโชคลาภเข้ามาสู่เจ้าของบ้านได้เสมอ
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/5af772f6-954b-4a13-843c-1211f7e8a4fa_original.jpg)
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/069d293b-0cae-41fd-9ec1-92c562754bc3_original.jpg)
ตามหลักทางชีววิทยา แต่แมวที่ยังคงลักษณะรูปเดิม คือมีรูปร่างเพรียว หน้าแหลม ตาคม สัญนิฐานว่าเหลือเพียงสามพันธุ์ในโลก คือ แมวอบิสซิเนียน แมวอียิปต์ และแมวไทยแมวทั้งสามพันธุ์นี้หน้าตาไม่แตกต่างกันมากนัก สองชนิดแรกสัญนิฐานว่าอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว คงเหลือแต่”แมวไทย”ที่นับเป็นพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่พันธุ์เดียว บรรพบุรุษของแมวไทยน่าจะเป็นแมวอียิป์ เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันมาก โดยที่ทางอียิปต์เรียกแมวว่า “เมียว” มีข้อสันนิษฐานการมาของแมวมายังแถบตะวันออกว่าว่า ในการเดินเรือการค้าสมัยโบราณจากอียิปต์มายังแถบตะวันออก อาจจะมีกะลาสีเอาแมวใส่ไว้ในเรือเพื่อจับหนู แมวอียิปต์จึงมาเผยแพร่ถึงทางตะวันออกก็เป็นได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานใดที่สามารถยืนยันในสมมติฐานข้อนี้ได้
แต่ระดับความรักที่ชาวอียิปต์โบราณแสดงต่อแมวนั้นไปไกลกว่าการเป็นเจ้าของด้วยความรักอันอบอุ่นมาก กว่าพันปีแล้วที่แมวในอียิปต์พัฒนาจากการเป็นนักล่าในหมู่บ้านที่มากประโยชน์ไปสู่การเป็นร่างจำแลงแห่งเทพและสัญลักษณ์แห่งการปกป้องจากสวรรค์
สำหรับเหตุผลที่แมวได้รับการปกป้องและเคารพบูชาก็เพราะเทพบาเตสมีผู้เคารพนับถือเป็นจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นช่วงยุคศตวรรษที่สองก่อนสากลศักราช มีการระบุโทษสำหรับผู้ที่ฆ่าแมวแม้จะจงใจหรือเกิดขึ้นด้วยอุบัติเหตุก็ตาม อีกทั้งยังมีเครื่องประดับและเครื่องรางที่เป็นภาพแทนของแมว ซึ่งจะถูกสวมใส่โดยทั้งชายและหญิงเพื่อเป็นเครื่องรางในการปกป้องบ้านและนำพาโชคดีมาให้ในช่วงระหว่างที่ให้กำเนิดบุตร เครื่องประดับจิวเวลรี่รูปแมวจึงกลายเป็นที่นิยมสำหรับการให้เป็นของขวัญปีใหม่
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/ดาวน์โหลด-2023-03-15T203520.314.jpg)
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/Bastet-1024x1024.png)
ฮาร์ตวิกกล่าวว่า มัมมี่แมวมากมายอยู่รอดมาได้นานนับศตวรรษ เนื่องจากการทำลายพวกมันเป็นเรื่องต้องห้ามในสังคมอียิปต์โบราณเพราะว่าพวกมันถูกบรรจุไปด้วยเศษส่วนวิญญาณของเทพบาเตส ดังนั้นพวกมันจึงถูกฝังไว้ในห้องฝังศพและในสุสานชั้นรอง การขุดค้นในพีระมิดอันแสนซับซ้อน ณ ซัคคาร่า ได้ค้นพบมัมมี่แมวหลายสิบตัว โดยบางตัวถูกฝูงอยู่ในโรงศพหินปูนด้วย
![เทพเจ้าแมว](https://storyreviewnete08ed.zapwp.com/q:i/r:0/wp:1/w:1/u:https://storyreview.net/wp-content/uploads/2023/03/159.png)
ฮาร์ตวิกไม่แน่ใจว่าเรื่องราวจากเฮอรอโดทัสจะสามารถเชื่อถือได้มากเพียงใด แต่ก็มีเรื่องราวจากเฮอรอโดทัสมากมายที่น่าสนใจ และมีความเชื่อมโยงกับหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ เช่น ครอบครัวชาวอียิปต์จะโกนขนคิ้วถ้าแมวของพวกเขาเสียชีวิตโดยธรรมชาติ และจะโกนขนทั่วทั้งร่างกายถ้าสุนัขของพวกเขาตาย และถ้าม้าของพวกเขาถูกไฟคลอก เฮอรอโดทัสเล่าว่า พวกผู้ชายจะไม่พยายามไปดับไฟแต่พวกเขาจะมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การช่วยชีวิตแมวและหยุดพวกมันไม่ให้เข้าไปยุ่งกับไฟ เฮอรอโดทัสยังเผยแพร่เรื่องราวอันเต็มไปด้วยสีสันของการบุกรุกจากเปอร์เซียสู่อียิปต์ในช่วง 525 ปีก่อนสากลศักราชด้วย เมื่อกษัตริย์เปอร์เซีย นอกจากชาวอียิปต์จะใช้ แมวจับหนูในโรงนาแล้ว…ยังใช้ แมวจับหนูบนเรือสินค้าอีกด้วยตรงจุดนี้
ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : รีวิวเรื่องตำนานสิ่งลี้ลับเรื่องผี
สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : Storyreview