STORYREVIEW
STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

ชื่อของบ้านเดิมนั้นมีความหมายลึกซึ้ง เพราะหมายถึงนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือพระนารายณ์หลับ ณ เกษียรสมุทร (ทะเลนม) บนหลังอนันตนาคราช ในความเชื่อตามลัทธิเทวราชนั้น กษัตริย์คือพระนารายณ์อวตารมาเกิด และบ้านหลังนี้ได้รับชื่อนี้เพราะกษัตริย์ทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ มีประติมากรรม “นารายณ์บรรทมสินธุ์” บริเวณด้านหน้าบ้าน สร้างพระราชทานให้คนสนิทเล่าลือกันว่าบ้านนี้ผีดุ ลือกันมานานแล้ว เจ้าหน้าที่ที่มาหน้าที่ดูแลรักษา ก็เล่าลือกันนักหนาว่า หากทำอะไรเหมือนการไม่เคารพสถานที่ เป็นเจอดีกันทุกราย บางคนได้ยินเสียงม้าร้องในตอนดึกๆ บางคนเห็นผู้หญิงในชุดสไบเดินไปเดินมา และในเขตบ้านยังมีศาลท้าวหิรัญฮู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สร้างบ้านหลังนี้ อาถรรพท้าวหิรัญฮูนั้นมีเล่ากันมากมาย ปัจจุบันศาลของท่านที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยังมีผู้ไปกราบไหว้ขอพรอยู่เสมอๆ

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพครับ (ที่เรียกว่าบ้านพิษณุโลก เพราะตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก) บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ออกแบบและสร้างโดย มาริโอ ตามานโญ สถาปนิกประจำราชสำนักสยามชาวอิตาลี มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน แต่เดิมชื่อว่า “บ้านบรรทมสินธุ์” พระองค์ รัชกาลที่ 6 ได้ทรงสร้างเพื่อเป็นพระราชทานให้มหาดเล็กทั้งหมด 4 พระองค์ ได้แก่

  • บ้านบรรทมสินธุ์ พระราชทานแก่ พลตรีพระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)
  • บ้านนรสิงห์ พระราชทานแก่ พลเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)
  • บ้านมนังคศิลา พระราชทานแก่ มหาเสวกเอก พระยาอุดมราชภักดี (โถ สุจริตกุล)
  • บ้านพิบูลธรรม พระราชทานแก่ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล)

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นตรงกับรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ทำการซื้อขายบ้านหลังนี้จากเจ้าของเดิมเพื่อแย่งกับประเทศญี่ปุ่นไม่ให้ญี่ปุ่นซื้อไปเป็นสถานทูตของประเทศ เนื่องจากบ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับกองพันทหารราบที่ 3 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเป็นที่ๆสำคัญแห่งหนึ่ง ทั้งสถานที่ สิ่งแวดล้อมภายใน โดยหลังจากซื้อแล้วรัฐบาลสมัยนั้นได้ใช้บ้านที่มีชื่อว่า นรสิงห์ เป็นทำเนียบรัฐบาล

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

บ้านหลังนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเรื่อยๆ จนสิ้นสุดที่ บ้านพิษณุโลก เนื่องจากบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก ข้างโรงพยาบาลมิชชั่น ได้ใช้เป็นที่ต้อนรับแขกเมืองสำคัญของรัฐบาลมาจนปัจจุบัน

  • บ้านบรรทมสินธุ์ ปัจจุบันคือ บ้านพิษณุโลก
  • บ้านนรสิงห์ ปัจจุบันคือ ทำเนียบรัฐบาล
  • บ้านมนังคศิลา ปัจจุบันคือ ที่ตั้งสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
  • บ้านพิบูลธรรม ปัจจุบันคือ กระทรวงพลังงาน

มีเพียงแต่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่พำนักอยู่ในบ้านหลังนี้ได้นานที่สุดคือ นายชวน หลีกภัย เนื่องจากบ้านพักในซอยหมอเหล็งของนายชวนนั้นค่อนข้างเล็กและคับแคบ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงได้ย้ายเข้ามาพำนักในบ้านพิษณุโลก อย่างเป็นทางการทั้งสองสมัย โดยนายชวน หลีกภัยได้ใช้โซฟาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน และไม่ได้มีการใช้เตียงนอนภายในห้องนอนของบ้านแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นให้เกียรติเจ้าของบ้าน จึงเป็นที่พูดถึงความอาถรรพ์ของบ้านหลังนี้ และหลังจาก นายชวน หลีกภัย แล้ว ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดใช้บ้านหลังนี้เป็นที่อาศัยอีกเลย จนถึงปัจจุบัน มีเพียงแต่ใช้เป็นที่ประชุมและรับแขกเท่านั้นอีกเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมาคือช่วงที่ นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น คุณหญิงพจมาน ผู้เป็นภริยาก็ได้นำคนเข้ามาทำความสะอาดของครั้งใหญ่ที่บ้านพิษณุโลกแห่งนี้ ในระหว่างที่กำลังปัดกวาดเช็ดถู คนงานหญิงคนหนึ่งก็ล้มตัวลงนั่ง จากนั้นมองไปรอบๆ ก่อนพูดออกมาเป็นเสียงคล้ายคนแก่ “อะไรๆ ก็รกหูรกตาไปเสียหมด อะไรๆ ก็สกปรก ไม่ยอมทำความสะอาดกันเลย” จนมีการนำน้ำมนต์และสร้อยพระมาคล้อง เธอจึงกลับมาเป็นตัวเธออีกครั้ง

อาถรรพ์บ้านพิษณุโลก

อีกหนึ่งเรื่องที่ยังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มนักข่าวรุ่นเก่าแก่ ที่เกิดขึ้นในสมัยนายกบรรหาร ศิลปอาชา ในสมัยนั้นท่านไม่ได้เข้ามาพักในบ้านหลังนี้ แต่ก็ได้ใช้เป็นที่ประชุมเรื่อยๆ โดยครั้งหนึ่ง ท่านได้ใช้เป็นที่ประชุมเหล่าสมาชิกผู้ทรงเกียรติของพรรค แล้วในระหว่างที่กำลังประชุมอยู่นั้น นายพวงเล็ก บุญเชียง ส.ส.ของพรรคในขณะนั้น ได้ลุกขึ้นยืนก่อนจะกราดนิ้วชี้ไปยังใบหน้าของผู้ร่วมสมาชิกพรรคทั้งหลายว่า “พวกแกมาทำอะไรกันที่นี่” ทั้งหมดนี้คือเรื่องอาถรรพณ์ที่เล่าลือต่อๆ กันมา แต่ไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นจริงหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องที่มักจะมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากรูปปั้นต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน เช่น ม้า รูปปั้นโรมัน ซึ่งคนงานที่เคยมาอาศัยต่างยืนยัน และมักจะได้ยินกันบ่อยๆ หลายคนตั้งข้อสงสัยไว้หลายอย่าง

ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ เรื่องแปลกทั่วโลก 2023 บอกเล่าเรื่องราว

สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : หัวกะโหลกต้องสาป