STORYREVIEW
STORYREVIEW
ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ 2023

ตำนาน”เทพเจ้าซูส”

ตำนานเทพเจ้าซูส

ซูส (Zeus) เป็นบุตรของ โครนัส (Cronus) และ รีอาRhea ตำนานที่อายุน้อยที่สุดกล่าวว่าเขาแต่งงานกับฮีร่า แต่ผู้เผยพระวจนะของ ดอโดนา (Adonna) และ (ไดโอนี)Dione ภรรยาของเขา เขาเป็นบิดาของอโฟรไดท์ตามที่ระบุไว้ในอีเลียด ด้วย Dionysia เป็นแม่ของเขาเขาจึงเป็นที่รู้จักในเรื่องเสน่ห์ทางเพศ ดังนั้นลูกชายและลูกสาวของเขาส่วนใหญ่เป็นฮีโร่อมตะ ประกอบด้วย Athena, Apollo และ Artemis, Hermes, Persephone, Dionysus, Perseus, Heracles, Helen’s Stable, Ares Hebe และ Hephaes Verus

Walter Bergert อธิบายเรื่องนี้ไว้ในหนังสือของเขา ชาวกรีกโบราณเชื่อว่า “ซุสเป็นบิดาแห่งทวยเทพ เทพเจ้าทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นเพราะเขา” ชาวกรีกเชื่อว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าสูงสุดและผู้ปกครองจักรวาล ตามที่ Pausanias กล่าวว่า “Zeus เป็นราชาแห่งสวรรค์ซึ่งเป็นคำที่รู้จักกันดี” พระเจ้า กวีโฮเมอร์มีอำนาจสูงสุดในหมู่ทวยเทพ

สัญลักษณ์ของ Zeus ได้แก่ Thunderbolts, Hawks, Bulls และ Oaks นอกจากตำนานอินโด-ยูโรเปียนแล้ว ชื่อในตำนาน “Gatherer” ยังมาจากสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมตะวันออกใกล้โบราณอีกด้วย

กำเนิดซูส

  ตำนานการถือกำเนิดของเทพซูสมีอยู่ว่า เทพีไกอาเทพมารดาแห่งผืนดิน ได้สมรสกับเทพยูเรนัสเทพแห่งท้องฟ้า และมีบุตรกลุ่มแรกคือ เหล่าเทพไททันซึ่งสร้างความภาคภูมิแก่เทพยูเรนัสมาก แต่ทว่าบุตรต่อ ๆ มาของเทพีไกอากลับอัปลักษณ์และน่ากลัว เช่น ยักษ์ไซคลอปส์ที่มีตาข้างเดียวกลางใบหน้า และอสุรกายน่าเกลียดต่าง ๆ ทำให้เทพยูเรนัสพิโรธโยนบุตรเหล่านั้นลงไปขังในคุกทาร์ทะรัสใต้พิภพ

  เทพีไกอาแค้นเทพยูเรนัสเป็นอย่างมากจึงยุยงให้เหล่าบรรดาเทพไททันก่อกบฏ ไม่มีเทพองค์ใดที่กล้าชิงบัลลังก์ กับ พระบิดายกเว้นเทพโครนัส และ จากการช่วยเหลือจากเทพีไกอาทำให้เทพโครนัสชิงอำนาจได้สำเร็จ แต่ทว่าเทพโครนัสไม่ได้ทำตามสัญญาที่จะปลดปล่อยอสูรผู้เป็นน้อง เทพีไกอาจึงสาปแช่งว่าบุตรที่จะเกิดมาของโครนัสจะชิงอำนาจไปเหมือนกับที่เคยทำไว้กับบิดา

ซูสวัยเยาว์

เทพธิดารีอาได้ซุกซ่อน ซูส(Zeus) ไว้ถ้ำตั้งอยู่ที่อยู่บนเทือกเขาไอด้าในกรีก ตามเทพปกรณัมเล่าขานต่อๆกันมาไว้หลายเรื่องราวมากมาย ดังนี้

1.พระองค์โตมาในการเลี้ยงดูของไกอา

2.พระองค์โตมาในการเลี้ยงดูของแซเทอร์ นามว่าอมัลธีอา โดยมีกลุ่มของคูรีเตสเหล่าทหาร หรือเหล่าเทพเจ้าตัวเล็ก ๆ ที่ใช้หอกและโล่ห์มากระทบกันเกิดเสียงดังจนโครนัสไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง(ดู โครนูโคเปีย)

3.พระองค์ได้เติบโตมาในการเลี้ยงดูของนางไม้นามว่า อดาแมนธีอา โครนัส ได้ตั้งกฏเพื่อการปกครอง ผืนดิน, ท้องฟ้า และ ท้องทะเล นางจึงซ่อนพระองค์ (ซูส) โดยการห้อยองค์หลวม ๆ ด้วยเชือกที่ผูกไว้กับต้นไม้ ทำให้พระองค์ไม่อยู่ในผืนดิน ท้องฟ้า และท้องทะเล ด้วยประการนี้ โครนัส ผู้เป็นบิดาจึงมองไม่เห็นซูสนั่นเอง

4.พระองค์โตมาในการเลี้ยงดูของเมลิสซา ผู้ถนอมเลี้ยงดูซูสด้วยนมแพะและน้ำผึ้ง

5.พระองค์โตมาในการเลี้ยงดูของครอบครัวเลี้ยงแกะ ภายใต้คำสัญญาที่ว่า แกะของพวกเขาจะปลอดภัยจากหมาป่า

การเติบโตของเทพเจ้าซูส

  ในเมื่อครั้งนึงที่เทพเจ้า ซูส(Zeus) นั่นจะเติบโตถึงวัยหนุ่ม พระองค์ได้บังคับให้โครนัสสำรอกหินออกมา (หิน ณ ที่ตั้งอยู่ ณ ไฟโต ใต้หุบเขา ปาร์นาซัส เป็นสัญลักษณ์ของเหล่ามนุษย์, ออมฟาลอส) ตามมาด้วยเหล่าพี่น้องของพระองค์ บางตำนานกล่าวถึง มีทิส ว่าเป็นผู้ปรุงยาให้โครนัสสำรอกลูก ๆ ออกมา ในบางตำนานก็กล่าวว่า ซูสนั่นเป็นผู้ผ่าท้องของโครนัส แล้วพาพี่น้องออกมา รวมถึงปลดปล่อย ไจแอนเตส, ฮีคาโตนไคเรส และ ไซคลอปส์ จาก ขุมนรกทาร์ทารัส และสังหารผู้คุม แคมพี

  ด้วยความขอบคุณ เหล่าไซคลอปส์มอบ อัสนีบาต และ สายฟ้า หรือฟ้าผ่า ให้แก่ซูส ซึ่งก่อนหน้านี้ไกอานำไปซ่อนไว้ ซูสและพี่น้องทั้งหมด รวมถึงพวกไจแอนเตส ฮีคาโตนไคเรส และไซคลอปส์ได้ร่วมกันโค่นโครนัสและยักษ์ตนอื่น ๆ ในมหาสงคราม ไททันโนมาชี เหล่ายักษ์ที่พ่ายแพ้โดนส่งไปยังขุมนรกทาร์ทารัส แอตลาส ผู้นำของกลุ่มยักษ์ที่ต่อต้านซูส โดนโทษให้แบกโลกไว้ตลอดเวลา

  หลังเสร็จสิ้นสงครามครั้งนั้น ซูสได้ร่วมกันปกครองโลกกับพี่น้อง ซึ่งก็คือ โพไซดอน และ ฮาเดส ดังนี้: ซูสปกครองสวรรค์ โพไซดอนปกครองท้องทะเล และฮาเดสปกครองโลกหลังความตาย มารดาแห่งผืนดิน ไกอา ยอมรับไม่ได้ที่เป็นเช่นนั้น พระนางได้บันดาลให้ส่วนของโพไซดอนมีเหตุแผ่นดินไหว (โพไซดอน – เทพเจ้าแห่งแผ่นดินไหว) และทำให้ฮาเดสถูกกล่าวหาว่าทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตาย (อ่านได้ที่ เพนธัส)

  ไกอาโกรธแค้นซูสที่สังหารเหล่ายักษ์ซึ่งเป็นลูกของนาง หลังจากซูสขึ้นปกครองเหล่าเทพ พระนางได้ปล่อยสัตว์ร้าย ไทฟอน และ เอไคนา แต่ซูสปราบไทฟอนและขังเขาไว้ใต้หุบเขาเอตน่า ส่วนเอไคนา พระองค์ปล่อยให้นางและลูกๆได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

ความคับแค้นใจทำให้เทพีรีอาตัดสินใจเก็บบุตรคนสุดท้องเอาไว้ โดยแสร้งส่งก้อนหินห่อผ้าให้เทพโครนัสไป ทารกซูสถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยเทพีไกอาผู้เป็นย่าได้นำทารกซีอุสไปซ่อนไว้ในหุบเขาดิกเทอ ในเกาะครีต ซีอุสกินอาหารคือน้ำผึ้งและน้ำนมจากนิมฟ์ครึ่งแพะที่ชื่อว่า อะมาลไธอา ซึ่งในภายหลังซีอุสได้ได้สร้างนางให้เป็นกลุ่มดาวแพะ หรือกลุ่มดาวมกรในจักรราศีและมีครึ่งเทพครึ่งแพะแห่งป่าที่เล่นฟลุทอยู่ตลอดเวลาชื่อแพนเป็นผู้ให้การศึกษา เมื่อซีอุสเติบใหญ่แข็งแรงจึงหวนกลับไปแก้แค้นโครนอสผู้เป็นเทพบิดาตามคำร้องขอของเทพีมารดา

  เทพีรีอา (Rhea) ได้ทำการล่อหลอกให้โครนอสนั่นได้กินยาจึงทำให้สำรอกบุตรที่เคยกลืนออกมา ด้วยความเป็นเทพเจ้าทำให้เหล่าเทพที่ถูกกลืนลงไปไม่ตายซ้ำยังเติบโตขึ้น เรียงลำดับได้ดังนี้

1.เทพีเฮสเตีย (Hestia) เทพีแห่งไฟและเทพีผู้คุ้มครองครอบครัว เป็นเทพีครองพรหมจรรย์

2.เทพีดิมีเตอร์ (Demeter) เทพีแห่งพันธุ์พืช ธัญญาหารและการเพาะปลูก มีธิดากับเทพซูสหนึ่งองค์คือ เทพีเพอร์ซิโฟเน หรือ โพรเซอพิน่าผู้เป็นชายาของฮาเดส

3.เทพีฮีรา (Hera) เทพีแห่งการสมรส เป็นมเหสีของเทพซูส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหึงหวง มีโอรสและธิดากับเทพซูส 3 องค์คือ เฮฟเฟสตุส ฮีบีกับ อาเรส

4.เทพเฮดีส (Hades) เจ้าแห่งโลกบาดาล ปกครองยมโลก มีเทพีเพอร์เซฟะนีเป็นมเหสี

5.เทพโพไซดอน (Poseidon) เจ้าแห่งท้องทะเล ปกครองน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนียนและน้ำที่ใช้ประโยชน์ได้ มีเทพีแอมฟิไทรท์ หรือ อัมฟิตรีติ เป็นมเหสี

เมื่อเทพทั้งห้าได้ออกมาจากท้องของโครนัสแล้วจึงร่วมกับซูสปราบโครนัสและส่งโครนัสไปขังไว้ที่ทาร์ทะรัส ซูสได้รับตำแหน่งเทพผู้นำของเหล่าเทพ เนื่องจากการจับฉลากแบ่งหน้าที่ของทั้งสามพี่น้อง และได้พาเหล่าเทพทั้งหลายขึ้นไปอาศัยอยู่บนเทือกเขาโอลิมปัส แม้ว่าเหล่าเทพทุกองค์จะยอมยกตำแหน่งผู้นำให้กับซูสในทีแรก แต่ในตอนหลังเหล่าเทพต่าง ๆ ก็ต่างพากันหาหนทางในการยึดอำนาจมาเป็นของตนเองอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮราผู้เป็นชายาของซูส ได้พยายามที่จะรวบรวมเหล่าเทพเพื่อก่อการกบฏอยู่เสมอ แต่ในท้ายที่สุดซูสก็สามารถที่แก้ไขปัญหา และจับตัวนางมาลงโทษได้อยู่เสมอ