ตำนาน อลิซาเบธ บาโธรี
เรื่องราวสยองขวัญนี้ที่ได้เกิดเป็นตำนานเกี่ยวกับผีดูเลือดแห่งปราสาทแอคติส ที่ทุกคนได้รู้จักกันนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศสโลวาเกียนี่เอง ก่อนจะเข้าเรื่องเกี่ยวกับ “ตำนานผีดูดเลือด” หรือ “อลิซาเบธ บาโธรี่” ที่เป็นที่รู้จักกันนั้นต้องบอกก่อนว่า ปราสาทแอคติสแห่งนี้ เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ตรงบนภูเขาที่บริเวณเนินผาที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านแอคติส ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงกลางของศตวรรษที่ 13 สาเหตุที่ได้สร้างปราสาทแห่งนี้นั้นก็เพื่อที่จะให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับอลิซาเบธกับคู่หมั้นของเธออย่างท่านเคาท์ ฟีเรนซ์ นาดาสดิ้ (Ferenc Nádasdy) ซึ่งหลังจากการแต่งงานระหว่างอลิซาเบธกับท่าเคาท์ ปราสาทแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังเป็นทั้ง เรือนจำ และยังเป็นสถานที่ที่ได้เกิดเรื่องสยองขวัญน่ากลัวและยังเป็นเรื่องที่ทำเอาประวัติศาตร์จำเป็นต้องระลึกไว้ถึงความอำมหิตของอลิซาเบธที่ได้ทำมา
สำหรับเรื่องราวความน่ากลัวหรือที่ตำนานน่ากลัวที่ได้เกิดขึ้นนั้นบางคนจะรู้จักกันในนามตำนานผีดูดเลือด ซึ่งนั่นได้มาจากความน่ากลัวของอลิซาเบธ บาโธรี่ นี่เองที่เธอนั้นเป็นทั้งเจ้าของปราสาทแอคติสแห่งนี้และยังเป็นเจ้าของของความน่ากลัวที่เกิดขึ้น
เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่
นั้นเป็นผู้หญิงที่เกิดมาในประเทศฮังการี เธอมีความฉลาด เธอมีร่างกายและหน้าตาที่สวยงามและเธอยังเกิดมาในตระกูลชั้นสูงอีกด้วย นั่นจึงเป็นที่หมายตาของหลายๆ ตระกูลที่ต้องการแต่งงานกับตัวเธอ แต่นอกเหนือจากที่ว่ามาทั้งความฉลาดและหน้าตาที่สละสวยแล้วนั้น ข้างในภายในนิสัยของเธอนั้นช่างน่ากลัว เพราะตัวเธอนั้นมีนิสัยที่เป็นคนโหดเหี้ยมและน่ากลัวชอบความรุ่นแรงและยังมีอาการเหมือนจะเป็นไบโพล่าตลอดเวลา ซึ่งตัวเธอนั้นก็มีโรคประจำตัวที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดเกี่ยวกับอาการโรคเรื้อรัง ที่ทางครอบครัวก็เธอได้พยายามที่จะพาเธอไปรักษาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่หายสักที ซึ่งได้มีการเล่าไว้ว่าสิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็คือเสียงกรีดร้อง เหตุเพราะว่าในช่วงตอนเด็กของเธอนั้น เธอได้มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงชนิดที่ว่าตัวเธอเองก็ทนไม่ไหวและในขณะนั้นก็ได้มีพยาบาลสาวที่อยู่ข้างๆ ตัวเธอ ซึ่งเธอก็ได้กัดเข้าไปที่ไหล่ของพยาบาลสาวคนนั้นจนเนื้อไหล่ของพยาบาลหลุดออกมา และตัวพยาบาลก็ได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นั่นทำให้อาการปวดหัวของอลิซาเบธได้ดีขึ้น เธอไม่รู้สึกปวดหัวเหมือนก่อนหน้านี้ ตัวเธอจึงเริ่มมีอาการเสพติดเสียงกรีดร้อง เพราะเสียงกรีดร้องนั้นเปรียบดั่งเสมือนยาพาราที่บรรเทาอาการปวดหัวของเธอ
ซึ่งเรื่องราวที่ได้เริ่มต้นความสยองนั้นได้เล่าไว้ว่าหลังจากที่เธอได้ทำการแต่งงานกับท่านเคาท์แล้วและก็ได้ปราสาทแห่งนี้เป็นของขวัญวันแต่งงานของทั้งสอง ในเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่มีสงครามเกิดขึ้นกับฝ่ายออตโตมานเติร์ก ซึ่งผู้ที่ต้องไปรบนั้นก็ไม่พ้นสามีของเธอ ท่านเคาท์นั้นต้องคอยออกไปรบเพื่อรักษาปราสาทแห่งนี้ไว้และได้ทิ้งอลิซาเบธไว้ในปราสาทแห่งนี้เพียงลำพังกับเหล่าสาวๆ คนรับใช้ของเธอ เวลาที่ท่านเคาท์ได้ออกไปทำการรบข้างนอกนั้น ตัวเขาจะไม่ค่อยได้กลับมาปราสาทบ่อยมากนักและก็ไม่ได้รู้เรื่องภายหลังเลย จึงได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวอลิซาเบธนั้นได้เริ่มแสดงนิสัยที่แท้จริงของเธอออกมา ซึ่งตัวเธอนั้นมักจะทำทุกอย่างตามใจชอบเพราะไม่มีสามีมาคอยคุมอยู่ เธอเริ่มทำไม่ดีตั้งแต่เริ่มมีชู้กับผู้ชายที่อยู่ในหมู่บ้านและในปราสาท บางทีก็รวมถึงชู้กับผู้หญิงก็มี ตัวเธอนั้น และเธอก็กลับมามีอาการเดิมที่ชอบทำร้ายคนผู้ที่ดูแลและเหล่าคนใช้ที่อยู่ภายในปราสาทแห่งนี้ เพื่อที่ว่าจะเป็นการระบายอารมณ์ที่ไม่ดีขึ้นตัวเธอ เธอทำอย่างนั้นทุกครั้งและทุกวันตลอดเวลาในช่วงที่สามีของเธอนั้นไม่ได้อยู่ปราสาทแห่งนี้
แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ที่เธอทำแบบนั้นและไม่ได้อยู่กับสามีของเธอ พอเวลาผ่านไปนานเข้าเธอเริ่มตระหนักถึงร่างกายของเธอที่กำลังเริ่มเหี่ยวเฉา ยิ่งเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มสังเกตร่างกายของเธอที่มันค่อยๆ มีรอยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัวเธอนั้นไม่สามารถยอมรับกับเรื่องนี้ได้และมันทำให้เธอรู้สึกว่าเธออยากจะมีร่างกายที่สวยงามตลอดไป เธอจึงพยายามที่จะหาวิธีที่จะทำให้ร่างกายของเธอนั้นคงที่และไม่แก่ตามเวลา เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะตามหาวิธีที่จะสามารถรักษาร่างกายของเธอได้ แต่เธอก็ไม่สามารถหาวิธีได้ นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกโกรธทุกครั้งและทุกครั้งที่เธอโกรธ เธอก็จะไปลงที่เหล่าคนใช้ของเธอ ทรมานพวกเขาไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้เธออารมณ์ดี ซึ่งเลือดของผู้คนที่เธอได้ทรมานนั้นได้ไหลออกมามาก ออกมาทุกครั้งที่เธอทรมานพวกเขา จนตัวเธอเริ่มสังเกตได้ว่าในบริเวณร่างกายของเธอที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกเขานั้นมันรู้สึกอ่อนนุ่ม มีความสวยงามและนิ่มเหมือนเป็นสาวเกิดใหม่ ซึ่งนั่นจึงได้เป็นสิ่งที่จุดเริ่มต้นของการเริ่มสังหารเหล่าหญิงสาวเพื่อนำเลือดของพวกเธอมาให้เธออาบ
เธอได้เริ่มที่จะหลอกล่อเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในปราสาทของเธอเพื่อที่จะฆ่าพวกเธอไปทีละคน เพื่อนำเลือดของหญิงสาวมาให้ตัวเธอได้อาบและทำให้ผิวของเธอนั้นเหมือนผู้หญิงที่เกิดใหม่ ซึ่งพอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หญิงสาวภายในปราสาทนั้นก็เริ่มหมดไปเรื่อยๆ เพราะเธอได้ฆ่าหญิงสาวทุกวัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อลิซาเบธนั้นเริ่มที่จะคัดสันและทำการรวบรวมเด็กสาวที่อยู่รอบๆ ปราสาทในหลายๆ แห่ง รวมถึงตัวหมู่บ้านที่อยู่ข้างๆ เธอได้บอกพวกหญิงสาวเหล่านั้นว่าให้มาทำงานที่ปราสาทแห่งนี้แลกกับเสื้อผ้าสวยๆ ที่ตัวเธอได้เตรียมไว้ให้กับเหล่าหญิงสาว ซึ่งก็ได้มีเด็กสาวหลายคนที่ได้เป็นเหยื่อของการฆาตกรรมที่โหดร้ายของตัวอลิซาเบธ พวกเธอนั้นได้ถูกกรีดเลือดให้ไหลออกมา ทั้งๆ ที่พวกเธอนั้นยังมีชีวิตอยู่ เลือดของพวกเธอนั้นจะถูกไหลลงอ่างและหลังจากเลือดของเด็กสาวเหล่านั้นเต็มอ่าง ตัวอลิซาเบธก็จะค่อยๆ ลงไปแช่อ่างเลือดนั้น ตัวอลิซาเบธนั้นรู้สึกดีและรู้สึกเหมือนเธออายุอ่อนลงทุกครั้งที่ได้ลงแช่อ่างเลือดนี้ ซึ่งเครื่องมือที่ไว้รีดเลือดของเหล่าหญิงสาวนั้นมีชื่อเรียกว่า “Iron Maiden” ซึ่งตัวลักษณะของมันนั้นเป็นเหมือนโรงศพของฟาโร เป็นรูปคนยืนอยู่แนวตั้งที่ข้างในนั้นเต็มไปด้วยเหล็กแหลมคมมากมาย ที่กระจายอยู่ทั่วๆ โลกศพแห่งนี้ ซึ่งวิธีการใช้โรงศพนี้ก็คือนำร่างกายของหญิงสาวเข้าไปและค่อยๆ ปิดโรงศพนี้และเหล็กนับสิบแท่งจะค่อยๆ แทงพวกเธอและทำให้เลือดของพวกเธอนั้นไหลออกมา ซึ่งนี่เป็นวิธีที่รีดเลือดออกมาได้เยอะที่สุด ตัวอลิซาเบธนั้นได้หลอกล่อเด็กสาวมาเป็นจำนวนมากและเธอทำอย่างนั้นเรื่อยๆ ในทุกอาทิตย์นั้นจะมีการเปิดรับเด็กสาวที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ หรือต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เพียงแค่เข้ามาทำงานให้กับอลิซาเบธพวกเธอก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมกับได้รับของใช้มากมายจากตัวอลิซาเบธ
ซึ่งเรื่องราวของความอำมหิตของอลิซาเบธจบลงได้ด้วยสาเหตุที่ว่าเริ่มมีการพูดถึงการกระทำของเธอจน พระเจ้าแมทเทียสที่ 2 ได้รู้เรื่องขึ้นมาและได้ส่งเหล่าทหารเข้ามาตรวจค้นที่ปราสาทของเธอและจับกุมเหล่าคนใช้ที่คอยช่วยเหลือเธอในการสังหารเด็กสาวมากมาย ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบทั้งหมดจึงได้รู้จำนวนของเด็กสาวที่เธอนั้นได้ฆ่าลงไป นั่นเป็นจำนวนมากกว่า 600 คน ซึ่งการลงโทษนั้นก็คือจับเหล่าคนใช้ที่ได้ช่วยเหลืออลิซาเบธนั้นเผาทั้งเป็นไม่ว่าจะกรณีใดๆ แต่ส่วนอลิซาเบธนั้น ด้วยความที่ตัวเธอนั้นเป็นตระกูลชั้นสูงจึงไม่สามารถทำการเผาเธอทั้งเป็นได้ จึงทำได้เพียงแค่ขังเธออยู่ในห้องปิดตายตลอดชีวิต ซึ่งห้องขังนั้นก็อยู่ในปราสาทแอคติสของเธอเอง ซึ่งห้องขังนั้นเหลือไว้เพียงช่องเล็กๆ ที่สามารถส่งอาหารและน้ำไปให้เธอได้ ซึ่งตัวอลิซาเบธนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ภายในห้องขังปิดตายนั้นได้เพียง 4 ปีเท่านั้นและหลังจากนั้นเธอก็ได้เสียชีวิตลงไปในตอนที่เธอมีอายุ 54 ปี ซึ่งนี่ก็ได้เป็นตำนานที่ได้สร้างความน่ากลัวให้กับเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในระแวงปราสาทแอคติสแห่งนั้นเกี่ยวกับความอำมหิตของอลิซาเบธและเธอถือว่าเป็น ฆาตกรสาวที่มีความโหดที่ฆ่าเด็กสาวเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับตำนานของฆาตกรสาวอย่างอลิซาเบธนั้นเป็นที่โด่งดังในสมัยก่อน และนับได้ว่าปัจจุบันนั้นก็คงจะมีคนรู้จักกันบ้างไม่มากก็น้อย อาจจะรู้จักกันผ่านจากหนังหรือหนังสือที่ได้มีการกล่าวถึงเธอกัน
ติดตามเรื่องราวตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอน : ตำนาน เรื่องหลอน เรื่องลี้ลับ เรื่องแปลกทั่วโลก 2023 บอกเล่าเรื่องราว
สามารถติดตามเรื่องราวในตำนาน สิ่งลี้ลับ เรื่องเล่าชวนหลอนได้เพิ่มเติมที่แฟนเพจของเรา : 10 เรื่องในตำนาน